Skip links

Food

Tags

มาม่าไทยขึ้นแท่นอันดับ 3 บะหมี่นำเข้าในเกาหลี

อาหารยอดนิยมช่วงสิ้นเดือนในบ้านเราอย่าง “มาม่า” กำลังกลายเป็นเมนูฮิตที่ชาวเกาหลีเกาใจเทคะแนนให้อย่างล้นหลาม หลังได้รับอิทธิพลจากเหล่า Youtuber ชาวเกาหลีที่ทำคลิปรีแอคชั่น รีวิวรสชาติบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยที่มีหลายสิบรสชาติลงในช่องของตัวเอง แม้ในช่วงแรกรสชาติความเผ็ดและเปรี้ยวของบะหมี่กึ่งสัญชาติไทย จะไม่ใช่รสชาติที่คนเกาหลีส่วนใหญ่คุ้นชินสักเท่าไหร่นัก แต่ก็นั่นแหละ ความแปลกนี้เองที่เป็นหนึ่งในเสน่ห์ดึงดูดให้เหล่าโอ้ปป้า ออนนี่ อาจุมม่า ฯลฯ อยากจะลิ้มลองรสชาติบะหมี่ที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง จนมีส่วนให้ทัพบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากประเทศไทย พุ่งขึ้นสู่อันดับ 3 จากสัดส่วนการนำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเกาหลี รองจากญี่ปุ่นและจีน นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยมีโอกาสขยายตลาดในเกาหลีได้สูง โดยเฉพาะรสชาติเผ็ดร้อนที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ ของประเทศ เช่น รสต้มยำกุ้ง, เล้งแซ่บ หรือผัดไทย ฯลฯ เนื่องจากบะหมี่กึ่งรสชาติเหล่านี้ มีจุดเด่นในด้านรสชาติที่สร้างความแตกต่างในตลาดเกาหลีได้เป็นอย่างดีปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีโดยรวมมีการเติบโตอย่างมาก แต่ก็มีปริมาณการนำเข้าไม่มากนัก โดยสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าของเกาหลี ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าของญี่ปุ่นและจีน ส่วนสินค้าจากไทย อยู่ในอันดับที่ 3 ของมูลค่าการนำเข้า โดยปี 2565 นำเข้าประมาณ 1.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 66.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 57.1% จากปีก่อนหน้า ซึ่งในปี 2566 นี้ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มตัวเลขการส่งออกให้มากขึ้น โดยเน้นรสชาติที่เป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในเกาหลี อย่างรสต้มยำกุ้ง, ปูผัดผงกะหรี่, เล้งแซ่บ, ผัดไทย ฯลฯ และอาจปรับปริมาณต่อซองให้เพิ่มขึ้นเพื่อเหมาะกับการบริโภคของชาวเกาหลี นอกจากนี้ เนื่องจากเทรนด์การใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคชาวเกาหลีจำนวนมากเลือกที่จะบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลดโซเดียม และเลือกบะหมี่ชนิดที่ไม่ผ่านการทอด ผู้ประกอบการไทย จึงต้องมองหาช่องทางในการผลิตและส่งออกสินค้าบะหมี่เพื่อสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้อีกทางด้วย
Tags

Soft Power ชาตรามือ เปิดสาขาแรกเวียดนาม ต่อคิวล้น ออเดอร์ทะลัก!

ชาตรามือ นั้นถือเป็นหนึ่งในลิสต์เครื่องดื่มที่นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปักหมุดไว้เป็นอันดับต้นๆ หากมีโอกาสได้มาเยือนเมืองไทย เพราะได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปากเรื่องรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และความหอมที่โดดเด่นแบบเกินเบอร์ ชิมแล้วให้รสสัมผัสที่แตกต่างจากชาของที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เมื่อ ชาตรามือ มาเปิดสาขาแรกที่ โฮจิมินห์ซิตี วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา หลังทดลองเปิดแบบ Soft Opening วันแรก ก็มีลูกค้าเก่าที่เคยชิมมาแล้วตอนมาเที่ยวไทย รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ได้ยินคำร่ำลือ ต่างพร้อมใจกันมาเข้าคิวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดนานกว่า 2 ชั่วโมง หนึ่งในนั้นคือหนุ่มเวียดนามที่น่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ชาไทย ไม่แน่ใจว่าจะสั่งไปกินหรือสั่งไปอาบ เพราะพี่แกสั่งออเดอร์เดียวถึง 73 แก้ว! คิดดูละกันถ้าเราต้องไปยืนต่อคิวข้างหลัง ต้องมีมองค้อนแบบตาแข็งบ้างแหละ สมมติแก้วนึงใช้เวลา 1 นาที พนักงานก็ชงออเดอร์นี้ไปเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว ไหนจะมีออเดอร์จากการสั่งออนไลน์ผ่านแอปฯ ต่างๆ อีก ทำให้ทางเพจชาตรามือเวียดนาม ต้องประกาศจำกัดจำนวน ให้สั่งได้ไม่เกิน 8 แก้วต่อออเดอร์ แล้วอีกสองวันถัดมาก็ลดจำนวนลงอีก ให้สั่งได้ไม่เกิน 6 แก้วต่อออเดอร์ สำหรับราคาขายที่สาขาเวียดนามนั้นเมื่อเทียบกับประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัว ในประเทศไทยเริ่มต้นแก้วละ 45 บาท ในขณะที่เวียดนามนั้นเริ่มต้นที่แก้วละ 55,000 ดอง (ประมาณ 80 บาท) โดยชาตรามือนั้นได้ออกไปบุกตลาดต่างประเทศมาหลายสาขาแล้ว ทั้งบรูไน, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เมียนมาร์, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และเวียดนามเป็นประเทศล่าสุด ซึ่งเว็บไซต์ TasteAtlas ที่รวบรวมบทความและข้อมูลอาหารยอดนิยมทั่วโลกได้จัด 10 อันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 และ “ชาไทยเย็น” นั้นได้รับคะแนนการโหวตอยู่ที่ 4.7 คะแนน อยู่อันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว ชาตรามือจึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ที่พารสชาติเอกลักษณ์แห่ง “ชาไทย” ออกไปมัดใจผู้คนทั่วโลก…อ้างอิง : https://www.tasteatlas.com/best-rated-non-alcoholic…
Tags

น่ากินหรือน่ากลัว เปิดตัว 5 เมนูโหด อร่อยโพดโพด ต้องลอง (มั้ย) ?!

1.ตัวไรวะ ราเมน สัตว์ทะเลน้ำลึกอะไรสักอย่างที่ถูกนำมาโปะบนชามราเมนนี้เป็นเมนูพิเศษจากประเทศไต้หวัน สนนราคาความอร่อยอยู่ที่ 1,480 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1,700 บาท หลังจากทำการสืบค้นจนทราบชื่อวัตถุดิบ สิ่งนี้ก็คือ Giant Isopod หรือแมลงสาบทะเลยักษ์นั่นเอง รีวิวจากผู้ที่ได้ชิมแล้วบอกว่ารสชาติไม่ได้แย่เหมือนหน้าตา รสสัมผัสนั้นใกล้เคียงกับเนื้อปูหรือลอบสเตอร์เลยทีเดียว 2.ก็อดซิลล่า ราเมน AKA เท้าไอ้เข้ราเมน ตั้งชื่อให้มันดูมีสตอรี่ ดูมีกิมมิคเรียกลูกค้า สร้างจินตนาการให้แก่นักชิม ใครจะเดินทางไปลองกินเป็นประสบการณ์ความอร่อยแบบแปลกๆ กำตังค์ไป 1,705 บาท สั่งมาลองชิมได้เลย ร้านอยู่ไต้หวันเหมือนเมนูก่อนหน้า ใครไม่กล้าชิม จะสั่งมาถ่ายรูปเฉยๆ ก็ได้ ทางร้านลดราคาพิเศษให้ เหลือเพียง 1,135 บาท 3.อ๊บอ๊บ ราเมน อีกหนึ่งของแปลกจากไต้หวัน ที่ดีกรีความโหดน้อยกว่า 2 เมนูแรกลงมานิดหน่อย ตรงที่การเอากบมาทำอาหารนั้นคนไทยหลายคนคุ้นชินและเคยสัมผัสรสชาติผ่านลิ้นกันมาบ้างแล้ว ซึ่งรสชาตินั้นจัดว่าเด็ดเลย เนื้อแน่นๆ เคี้ยวหนึบๆ อาจจะมีเอ๊ะบ้างก็ตรงที่การเสิร์ฟอ๊บอ๊บมาแบบเต็มตัว ให้ความรู้สึกเหมือนน้องนอนแช่น้ำจ้องหน้าเราอยู่ เลยไม่ค่อยกล้ากินแค่นั้นเอ๊งงง 4. จุ๊คาโครง แม้ว่าชื่อจะฟังแล้วได้ฟีลอาหารฝรั่งเศส แต่พอได้เห็นภาพการรับประทานเมนู “จุ๊คาโครง” นี้แบบใกล้ชิด อาจทำให้หลายคนต้องเบือนหน้าหนี การทานอาหารที่ได้ฟีลลิ่งแบบสิงโต แทะเนื้อวัวกันแบบติดซี่โครงนี้ ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดก็คือการประหยัดแก๊ส ลดค่าไฟ ไม่ต้องหุงอุ่นตุ๋นต้มนึ่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าการประหยัดเงินในการปรุงวัตถุดิบให้สุกนี้ จะต้องโยกไปจ่ายเป็นค่าหมอค่ายาให้โรงพยาบาลแทนรึเปล่าก็ไม่รู้ 5. ซุปค้างคาว แค่เห็นก็สยอง อย่าหาลองเลยเชียว เพราะค้างคาว ต่อให้กินสุกขนาดไหน ก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเจ็บป่วยจากโรคแปลกๆ ที่อาจติดต่อจากค้างคาวแพร่ระบาดมาสู่มนุษย์ได้ สาระดีดี : เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อมาสู่มนุษย์ แนะนำให้ปิดมือถือ เปิดโหมดแอร์เพลน หรือดึงปลั๊กไวไฟที่บ้านออก เพียงเท่านี้โรคทั้งหลายก็ติดต่อเราไม่ได้แล้ว หึหึ