Skip links

Editor’s Pick

รองเท้าแตะ Prada จุดไฟดราม่า Soft Power อินเดีย

ไม่กี่วันที่ผ่านมา แบรนด์ Prada กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย เพราะหลังจากเปิดตัวรองเท้าแตะดีไซน์ใหม่ในงาน Milan Fashion Week ซึ่งดูๆ ไปแล้วก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับรองเท้าแตะโคลฮาปูรีของชาวอินเดีย อันมีต้นกำเนิดจากรัฐมหาราษฏระตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แต่ในงานนั้น Prada กลับระบุรายละเอียดไว้เพียง “รองเท้าแตะหนัง” แค่นั้น จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า แบรนด์หรูชื่อดังไม่ยอมให้เครดิตกับมรดกทางวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ โดยประเด็นหลักที่ฝ่ายเรียกร้องต้องการเสนอคือ หากคุณได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีที่หยั่งรากลึก อย่างน้อยคุณก็ต้องให้เครดิตที่มาของแรงบันดาลใจนั้นๆ ด้วย อีกทั้ง รองเท้าแตะโกลฮาปูรียังได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ตั้งแต่ปี 2019 ทว่าพอไปอยู่บนเวทีแฟชั่นไฮโซ กลับไม่มีการพูดถึงถิ่นฐานที่มาของมันเลยสักคำ เพราะสำหรับชาวอินเดียบางส่วน พวกเขามองว่า นี่ไม่ใช่รองเท้าดาดๆ ที่ไร้คุณค่า แต่มันคือภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมากว่า 800 ปี รองเท้าแตะเหล่านี้คืองานฝีมือของบรรพชนอินเดีย อันมีรากประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ตั้งแต่ราชสำนัก ตลอดจนนักบวช และมันยังเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องมือในการบำเพ็ญตบะด้วย พูดอีกอย่างคือ Prada เอางานฝีมือของพวกเขามาใช้ แต่ไม่มีการพูดถึงพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทำราวกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตนซะอย่างงั้น นี่คือประเด็นสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจ สำหรับวงการแฟชั่น เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจในปัจจุบัน เนื่องจากทุกวันนี้ ผู้บริโภคสินค้าแบรนด์หรู เริ่มให้ความสำคัญกับตัวตนทางวัฒนธรรมมากขึ้น การใช้องค์ประกอบทางวัฒนธรรมอย่างมีบริบทจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อสินค้า นี่อาจเป็นบทเรียนให้แบรนด์อื่นๆ ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ไม่มากก็น้อย นอกจากนี้ สื่อสัญชาติอินเดียอย่าง Diamond World ยังเผยแพร่บทความชวนตั้งคำถาม ถึงโอกาสของ Soft Power ประเทศอินเดียไว้อย่างน่าสนใจ โดย Diamond World ระบุว่า งานฝีมือที่ละเมียดละไมถือเป็น Soft Power ของประเทศอินเดีย และเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามหาศาล เพราะแหล่งที่มาของสินค้าต่างๆ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เมื่อใดที่ผู้บริโภคเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังชิ้นงาน รับรู้ถึงห่วงโซ่การผลิตและมรดกทางวัฒนธรรม เมื่อนั้นอินเดียจะไม่ได้เป็นแค่หลังบ้านให้แบรนด์ต่างๆ เท่านั้น อย่างไรก็ดี พวกเขายังต้องลงทุนเพื่อให้เป็นที่รู้จัก ส่งเสริมเรื่องราวของตัวเอง และสร้างการรับรู้ที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาให้มากกว่านี้ พอเป็นประเด็นร้อนในสังคม ต่อมาทาง Prada ก็มาแสดงความรับผิดชอบ โดย Lorenzo Bertelli หัวหน้าฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคมของปราด้า ได้ส่งจดหมายถึงหอการค้ารัฐมหาราษฏระ ซึ่งยอมรับว่ารองเท้าแตะดังกล่าว ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอินเดียจริงๆ ส่วนสถานะของสินค้ายังอยู่ระหว่างการพัฒนา ยังไม่แน่ใจว่าจะออกสู่ตลาดหรือไม่ อย่างไรก็ดี ทาง

สุกี้-บอย-สมเกียรติ แถลงจัดใหญ่ปลายปี “B.DAY Forever Concert” ฉลอง 20 ปีเบเกอรี่ มิวสิค

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ที่แฟนเพลงรอคอย! “สุกี้” กมล สุโกศล แคลร์, “บอย” ชีพชนก ศรียามาตย์ และ “สมเกียรติ” อริยะ ชินวัตร ผู้ก่อตั้งค่ายเพลงในตำนาน Bakery Music และ Dojo City ได้แท็กทีมศิลปินจากทั้งสองค่าย มาร่วมแถลงข่าวงาน Heineken Experience Presents “B.DAY Forever Concert” ที่เตรียมมอบความสุขให้ชาว Bakerian ทุกคนได้ย้อนวันวานไปกับบทเพลงอันเป็นประวัติศาสตร์ที่อยู่ในใจมาตลอด 20 ปี คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี สร้างสรรค์โดย CI Showbiz โดยแบ่งเป็น: รอบการกุศล: วันที่ 5 ธันวาคม 2568 (บัตรราคา 8,500 / 7,800 / 6,500 / 5,800 / 4,600 / 4,000 / 3,300 / 2,600 บาท) พิเศษ! สามารถออกใบเสร็จเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า รอบทั่วไป: วันที่ 6-7 ธันวาคม 2568 (บัตรราคา 6,500 / 6,000 / 5,000 / 4,500 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 บาท) นี่คือการรวมตัวของศิลปินจากค่าย Bakery Music และ Dojo City ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่จัดเต็มและยิ่งใหญ่กว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น:

5 สาว ‘GAMMA’ พร้อมสาดรังสีวงการ T-POP กลับสู่ยุคทองอีกครั้ง?

Persona Entertainment ประกาศเปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ “GAMMA” (แกมม่า) ที่มาพร้อมกับความสนุกสนาน น่ารัก สดใส ในซิงเกิลแรก “Turn it into Gold” ที่เตรียมพร้อมจะฉายแสงและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในปี 2568 ด้วยคอนเซ็ปต์นิยามใหม่ของความล้ำสมัยที่แตกต่างอย่างมีสไตส์ “GAMMA” ถือเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่เบอร์แรกของ Persona Entertainment มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ที่จะมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สุดพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการบ่มสีอัญมณีอันบริสุทธิ์ของพลัง “รังสีแกมมา” รังสีที่มีพลังงานสูงสุดในสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า โดยสมาชิกแต่ละคนของ “GAMMA” จะเป็นสัญลักษณ์ของอัญมณีที่ไม่เหมือนใคร “ปิงปอง” คือ ประกายแวววาวอันแสนหวานของ “มอร์แกไนต์” , “สกาย” คือหัวใจของวง เปล่งประกายด้วยพลังที่สดใสแต่ทรงพลังของ “อความารีน”, “มิล่า” สาวผู้มีสไตล์การแสดงที่เปล่งประกาย ทำให้เธอเหมาะสมอย่างยิ่งกับ “เพอริโดต์”, “กริฟฟิน” เธอคือภาพสะท้อนจิตวิญญาณของศิลปิน เหมือนความเข้มข้นของ “โกเมน” สีแดงเข้ม และคนสุดท้าย “จีน” คือภาพลักษณ์แห่งความลึกลับ และสง่างาม เธอสะท้อนพลังแห่ง “อเมทิสต์” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อรวมตัวกันทั้ง 5 คนก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่เปล่งประกายและพลังงานที่ไม่มีใครเทียบได้ พวกเธอเป็นมากกว่าแค่ศิลปิน แต่คือ “อัญมณีแห่งจักรวาล” ที่เปล่งประกายด้วยแสงสว่างของตัวเอง ถูกหล่อหลอมภายใต้ความกดดัน และพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังงานบนทุกเวที งานนี้ 5 สาว “GAMMA” จะมาพร้อมกับความสนุกสนาน น่ารัก สดใส กับซิงเกิ้ลแรก “Turn it into Gold” ด้วยเสียงดนตรีที่ผสมผสานป๊อปแนวล้ำสมัย ฮิปฮอป และซินธ์ บวกกับท่าเต้นทรงพลังแข็งแกร่งรวมเป็นทีมเวิร์ค ทำให้พลังของเพลง “Turn it into Gold” ที่สื่อความหมายของการเปลี่ยนความเจ็บปวด ความไม่มั่นใจ การถูกปฏิเสธให้กลายเป็นพลังอันแข็งแกร่งด้วยการรักตัวเองอย่างเต็มที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของ 5 สาว “GAMMA” ได้ทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ Persona Entertainment / Instagram : Gamma.officialth /

ชัยชนะของ PSG ใต้เงาสงคราม : “Visit Rwanda” ฟอกขาวหรือซอฟต์พาวเวอร์

ท่ามกลางเสียงเฮระหว่างการเถลิงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกของสโมสรฟุตบอล Paris Saint-Germain FC ด้วยชัยชนะที่รอคอยมานานสำหรับการเป็น ‘เจ้ายุโรป’ ในค่ำคืนแห่งความทรงจำนี้ ไม่เพียงแค่โลโก้ของผู้สนับสนุนรายใหญ่จากยุโรปที่เฉิดฉายเท่านั้น ยังมีชื่อของประเทศเล็กๆ อย่าง “รวันดา” ปรากฎบนแบนเนอร์ และเสื้อวอร์มของบรรดานักเตะ เป็นส่วนหนึ่งในชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย แม้ชื่อดังกล่าวจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงจากผู้บรรยาย แต่คำว่า “Visit Rwanda” ก็ตระหง่านอยู่ตรงนั้น ชวนให้ผู้คนจดจำและไปเยี่ยมเยือนสักครั้งหนึ่ง ส่วนใครจะจำในทางที่ดี หรือจดจำในทางที่แย่ อันนี้ก็ตามสมควร เหตุที่ต้องเอ่ยเช่นนั้นเนื่องเพราะสปอนเซอร์จากแดนแอฟริกาเจ้านี้ เป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของคณะกรรมการพัฒนารวันดา (RDB) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นสปอนเซอร์ให้สโมสรชื่อดังอย่าง PSG, Bayern Munich, Arsenal และอื่นๆ แต่เรื่องของเรื่องคือ ความตึงเครียดระหว่างรวันดาและคองโกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้รวันดามีส่วนในการทำให้เกิดวิกฤตในภาคตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวมถึงการสนับสนุนกลุ่ม M23 ที่มีส่วนรู้เห็นและรับผิดชอบต่อการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง สร้างสถานการณ์ความขัดแย้งด้วยอาวุธในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวมถึงการสังหารและทำร้ายร่างกาย ใช้ความรุนแรงทางเพศ ก่ออาชญากรรม บังคับอพยพ ฯลฯ และนั่นแหละปัญหา เพราะความโหดร้ายเหล่านี้ ทางการรวันดาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็น หรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมถึงความรุนแรงภายใน อาทิ การปราบปรามผู้เห็นต่าง การข่มขู่และละเมิดสิทธิมนุษยชน การจับกุมโดยพลการ การขาดเสรีภาพ และความยุติธรรม แม้ฝ่ายรวันดาจะปฏิเสธข้อกล่าวหาร้ายแรงมาตลอด แต่องค์กรระหว่างประเทศก็ยืนยันเสียงแข็งถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันไม่ชอบมาพากล ทั้งนี้ ข้อตกลงระหว่าง Visit Rwanda กับ PSG มีมูลค่าระหว่าง 8 ล้านยูโรถึง 10 ล้านยูโรต่อปี และเพิ่งจะขยายสัญญาไปจนถึงปี 2028 ซึ่งโลโก้ Visit Rwanda จะได้สิทธิ์ปรากฎอยู่ในชุดฝึกซ้อมและชุดวอร์มของทีม PSG รวมถึงบนอาร์มแขนเสื้อชุดแข่งในรายการสำคัญ ตลอดจนรังเหย้าของทีมอย่าง Parc des Princes ก็มีป้ายโฆษณา Visit Rwanda เด่นอยู่ข้างสนาม กระทั่งชา-กาแฟที่เสิร์ฟใน Parc des Princes ก็อิมพอร์ตมาจากรวันดา นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า PSG Academy Rwanda ศูนย์พัฒนาเยาวชน ที่จัดให้มีการพัฒนาทักษะฟุตบอล การศึกษา และการให้คำปรึกษาแก่เยาวชนชาวรวันดา ทั้งหมดนี้เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมผ่านการเล่าเรื่องและประสบการณ์ที่พิเศษ กลยุทธ์ของรวันดากับ

‘หลวงเจ๊ AMITOFO’ หยอกล้อเพราะศรัทธา – เสกบุดด้าเป็นของเล่น!

ชาวพุทธปีลึกถึงกับเอามือทาบอก เมื่อได้เห็น “หลวงเจ๊ Amitofo” — อาร์ตทอยที่ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ยังจุดประกายการสนทนาที่ลุกลามไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออก ด้วยการผสมผสานอย่างกล้าหาญระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปกับสีสันแห่งความกะเทยและป็อปคัลเจอร์เข้าไว้ด้วยกัน ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินหญิงชาวจีน SHUPI ไม่เพียงดึงดูดสายตาผู้พบเห็น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย ตั้งแต่เสียงปรบมือแห่งความชื่นชม ไปจนถึงเสียงวิพากษ์ที่ตีตราผลงานว่า “บาปหนา”—เปิดพื้นที่ให้เกิดการถกเถียงอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องขอบเขตของศิลปะ ความเหมาะสมทางวัฒนธรรม ลามไปถึงบทบาทของศาสนาในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เสียงสะท้อนจากโลกอนุรักษ์นิยม ในแวดวงที่ยึดมั่นถือมั่นในความออริจินัล โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลวงเจ๊ Amitofo ไม่อาจหลีกเลี่ยงเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความ “ไม่ความเหมาะสม” และการขาดความเคารพต่อสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาไปได้ อย่างไรก็ตาม ข้อโต้แย้งเหล่านี้กลับทำให้อาร์ตทอยชิ้นนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งแรงกระเพื่อมทางวัฒนธรรมที่ทรงพลัง ที่มาของ “หลวงเจ๊” SHUPI ได้เผยเจตนาแท้จริงของผลงาน ว่าต้องการให้พระพุทธรูปดู “เฟรนด์ลี่” และร่วมสมัยมากขึ้น มีความน่ารักแต่แอบแฝงนัยยะอันลึกซึ้ง การตีความใหม่นี้ท้าทายภาพจำพระพุทธรูปในบริบทดั้งเดิม โดยเฉพาะในวัฒนธรรมไทย ลบเส้นแบ่งระหว่าง “ความน่าเลื่อมใสในอุดมคติ” กับ “ความเป็นจริงในสังคม” ตัวอย่างเช่น “ปาง Work from Home”, “ปางนอนเล่นมือถือ” หรือคอลเลกชั่น City Walk ล้วนไม่ได้แค่เรียกรอยยิ้ม ผลงานเหล่านี้ยังสื่อให้เห็นว่า ความศรัทธาไม่จำเป็นต้องถูกขังอยู่ในกำแพงวัดหรือการเจริญสมาธิเสมอไป หากแต่อาจผลิบานได้ในกิจวัตรประจำวัน เพื่อเข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ ที่กำลังเผชิญความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกปัจจุบัน อาร์ตทอยชิ้นเล็กกับพลังที่ยิ่งใหญ่ “หลวงเจ๊ Amitofo” คือผลงานที่ตีความ “รูปเคารพ” ใหม่ในเชิงศิลปะ พร้อมกับหยอกเย้าประเด็นใหญ่ในสังคมอย่างแยบคาย และหากถูกใช้อย่างชาญฉลาด แม้แต่ “ของเล่น” ก็สามารถกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงอิทธิพลในการขับเคลื่อนความคิดและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างแท้จริง 📍 ผู้ที่สนใจ สามารถแวะไปชมนิทรรศการหลวงเจ๊ “Amitofo X Colorverse” ได้ที่ Union Mall ชั้น 4 | Co-Art Space #7 ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. – 14 ก.ย. 2568 #Amitofo #UnionMallxAmitofo #Colorverse #UMCOARTSPACE7 #UnionCoArtSpace #Pride2025 #BeYourself

สร้างแลนด์มาร์ก ไทยแลนด์ No.1  เมืองหลวงแห่งความเท่าเทียมทางเพศระดับโลก

วันนี้ (27 พฤษภาคม 2568) ณ ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.  เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Amazing Thailand Love Wins Festival (Pride Month) หนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025  ร่วมเฉลิมฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQIAN+ ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่สนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ พร้อมเป็น Pride Destination ระดับโลกอย่างแท้จริง โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาประเทศไทยได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ หลังจากการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขมาตรา 1448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 การก้าวข้ามนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากวัฒนธรรมไทยที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมาช้านาน ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับชุมชน LGBTQIAN+ จากทั่วโลก รองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า “วันที่ 23 มกราคม 2568 เป็นวันแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะต้องถูกจารึกไว้ว่าเป็นวันที่คู่รัก LGBTQIAN+ สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียม” บูสต์พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หนึ่งในแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเป็น Pride Destination คือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มหาศาล จากการศึกษาของ Agoda พบว่า การประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยคาดว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 65,000 ล้านบาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง เผยว่า การจัดกิจกรรม Amazing Thailand Love Wins Festival ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยจากตลาดนักท่องเที่ยว

House of Dancing Water – สืบสานตำนานระบำน้ำสู่มรดกสุดตระการตา ณ City of Dreams Macau

เปิดการแสดงรอบปฐมทัศน์แล้วกับ ‘House of Dancing Water’ การแสดงระดับตำนานที่ทุกคนรอคอยหวนคืนสู่เวทีอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งที่ City of Dreams Macau ที่มาเก๊า ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญตามแผนบูรณาการด้านการท่องเที่ยว “Tourism+” ของมาเก๊า งานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ ได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ และสื่อมวลชนจากทั่วโลกที่มาร่วมสัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟก่อนใคร  นำโดยนายโฮ เฮา หวา รองประธานคณะกรรมการแห่งชาติของที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน, นายไต้ กิน อิ๊บ เลขาธิการฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า, นางไป่ ปิง รองผู้อำนวยการกรมประชาสัมพันธ์และวัฒนธรรม สำนักงานประสานงานรัฐบาลกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเขตบริหารพิเศษมาเก๊า, นายหลิน รู่ไห่ ผู้อำนวยการกรมกงสุล สำนักงานผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำมาเก๊า นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารจาก Melco Resorts & Entertainment เข้าร่วมงาน ได้แก่ นายลอว์เรนซ์ โฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายอีวาน วิงค์เลอร์ กรรมการและประธานบริษัท พร้อมด้วยนายจูเลียโน เปปารินี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จาก Peparini Studios ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะการแสดงสุดยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าในการส่งเสริมวัฒนธรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  ‘House of Dancing Water’ อีกหนึ่งโครงการวัฒนธรรมที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้มาเก๊าก้าวขึ้นสู่การเป็น “ศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวและการพักผ่อนระดับโลก” ยกระดับประสบการณ์ทางศิลปะด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและการเล่าเรื่องอันทรงพลัง จะช่วยเสริมภูมิทัศน์ความบันเทิงของมาเก๊าให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับผู้ชมจากนานาชาติ Previous Next พร้อมด้วยการปรากฏตัวของเหล่าเซเลบริตี้ชั้นนำอย่างคับคั่ง อาทิ Alex Fong, Bingbing Li, Carina Lau, Cecilia Cheung, Charlene Choi, Jeffrey Ngai, Karena Lam, Kelly Chen, Myolie Wu, Pakho Chau, Qi Shu, Rain (Jung Ji-Hoon),

คิง เพาเวอร์ เฉลิมฉลองวันมหาสงกรานต์สุดคึกคัก ในงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ยกทุก BEACH! สนุกสุดขีดให้โลกจำ

พบกับขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-รางน้ำ นำโดย อาโป-ณัฐวิญญ์, วิน-เมธวิน, ต้าห์อู๋-พิทยา และออฟโรด-กันตภณ

ฮีโร่สี่ขา K9 สุนัขกู้ภัย กู้ใจ

ช่วงนี้ไม่ว่าจะเลื่อนฟีดไปทางไหนก็เจอการปฏิบัติหน้าที่อย่างขันแข็งของเหล่าสุนัขสี่ขา “K9” ที่เข้ากู้ภัยและค้นหาผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างถล่มลงมา ชวนให้สงสัยว่าจริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่สี่ขาเหล่านี้เป็นใครกันแน่ คำว่า K9 มาจากคำว่า Canine ซึ่งเป็นคำศัพท์ในภาษาละติน แปลว่า สุนัข โดยการปฏิบัติหน้าที่ของ K9 ในไทยเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง 60 ปีก่อน เมื่อพล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไปศึกษาการฝึกสุนัขตำรวจที่ต่างประเทศ พร้อมให้พาตัวสุนัขตำรวจกลับมาไทย เพื่อถ่ายทอดความรู้ และก่อตั้งกองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจ ทำให้สุนัขและม้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับการทำภารกิจต่าง ๆ อย่างเป็นทางการนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายพันธุ์สุนัข K9 ที่ได้รับความนิยมมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เยอรมันเชฟเฟิร์ด, บลัดฮาวนด์, ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, แจ็ค รัสเซลล์, ด็อบเบอร์แมน, เบลเยี่ยม มาลินอยส์ เป็นต้น โดยจะต้องมีความฉลาด แข็งแรง สามารถฝึกฝนได้ง่าย และทนกับแรงกดดันในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี K9 ไม่ได้ถึงสุนัขตำรวจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสุนัขทหาร และสุนัขกู้ภัย โดยจะมีการแบ่งยศ ออกเป็น สุนัขตำรวจตรี สุนัขตำรวจโท และสุนัขตำรวจเอก เพื่อสร้างกำลังใจให้กับสุนัขและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน สุนัข K9 แต่ละตัวจะได้รับการมอบหมายหน้าที่แตกต่างกันไปตามความถนัด อาทิ ดมกลิ่นค้นหาวัตถุต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ระเบิด ยาเสพติด สารเร่งปฏิกิริยาวางเพลิง รักษาความปลอดภัยและเข้าโจมตีจับกุมผู้ต้องสงสัย รวมถึงดมกลิ่นค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุภัยพิบัติ สงคราม หรือแผ่นดินไหวที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าค้นหาได้ หรือที่เรียกที่ SAR Dog (Search And Rescue Dog) โดยเมื่อ K9 พบผู้ประสบภัย ก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ในเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ครั้งนี้ใช้ทีมสุนัข K9 จากทั้งกรมการสัตว์ทหารบก / สุนัขตำรวจ K9 / United SAR K9 /

วิฬาร์กรุงเทพ เหมียวใหม่รอรับสายพันธุ์สากล – พลังนุ่มนิ่มของแมวไทยโบราณพุงนิ่มนุ่ม

แมวไทยโบราณ ถือว่าเป็นแมวที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากทั้งเหล่าทาสเหมียวในไทยและต่างประเทศ ทั้งในด้านรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์และนิสัยที่แตกต่างจากแมวในต่างประเทศ ไปจนถึงความเชื่อตามตำราที่ว่าเลี้ยงแล้วดี ล้วนตกให้มนุษย์กลายเป็นทาสแมวแบบเต็มใจ มูยันแมว 5 แมวไทยมงคล เลี้ยงแล้วดี เป็นศรีแก่บ้าน ตามตำราความเชื่อไทยแล้ว แมวไทยโบราณไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีดีแค่ความน่ารัก แต่บางสายพันธุ์ยังเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมโชคลาภและปกป้องเจ้าของจากเคราะห์ร้าย ช่วยเสริมดวง เงินทองไหลมาเทมา บารมีพุ่งกระฉูดอีกด้วย “แมวศุภลักษณ์” (Suphalak) – บารมีเหนือใคร “แมวศุภลักษณ์” หรือ แมวทองแดง เป็นแมวที่มีเอกลักษณ์ด้านความความงดงาม มีขนสีน้ำตาลแดงเข้มเงางามสะท้อนแสงระยิบระยับ ดวงตาสีเหลืองอำพันเต็มไปด้วยเปี่ยมเสน่ห์และทรงพลัง ผสานกับนิสัยที่เฉลียวฉลาด เป็นมิตร และเข้ากับคนง่าย ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักแมวทั่วโลก อีกทั้งยังถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ บารมี และความรุ่งเรือง ด้วยคุณลักษณะอันโดดเด่นเหล่านี้ ในปี 2024 สหพันธ์แมวโลก (WCF) จึงประกาศรับรองให้แมวศุภลักษณ์เป็นสายพันธุ์ไทยแท้อย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับแมวไทยสู่เวทีโลก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในฐานะต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และตอกย้ำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยผ่านมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า “แมววิเชียรมาศ” (Siamese Cat) – ราชาแห่งแมวไทย “แมววิเชียรมาศ” หรือที่ได้รับการขนานนามว่า ราชาแห่งแมวไทย เป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ลึกลับและสะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ด้วยแต้มสีเข้ม 9 จุดที่โดดเด่นบริเวณหน้า ตา หู เท้า และหาง ที่ให้ความรู้สึกถึงความสง่างามและลึกลับยิ่งขึ้น ดวงตาสีฟ้าสดใสราวกับอัญมณีที่สะท้อนความฉลาดและความมีเสน่ห์อย่างไม่ธรรมดา บุคลิกของแมวสายพันธุ์นี้เต็มไปด้วยความแสนรู้และขี้อ้อนมักจะทำให้ผู้คนหลงรักได้ง่ายดาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าแมววิเชียรมาศเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ที่สามารถช่วยเรียกทรัพย์ เสริมความมั่งคั่ง และปกป้องเจ้าของจากสิ่งไม่ดี หากบ้านไหนได้เลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ อำนาจ วาสนา และโชคลาภก็จะไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสาย เหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง “แมวขาวมณี” (Khao Manee) – ราชินีแห่งแมวไทย “แมวขาวมณี” ถือเป็นตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์และโชคลาภ ด้วยขนสีขาวสะอาดตาและดวงตาที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นดวงตาสีฟ้าสดใส สีเหลืองอำพัน หรือแม้แต่ดวงตาสองสีที่หายากและดึงดูดใจ แมวขาวมณีเคยเป็นแมวหลวงในราชสำนักและเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากเหล่าทาสทั้งหลาย ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยน ฉลาด และเป็นมิตร ทำให้เป็นเพื่อนคู่ใจที่คนรักแมวหลายคนต้องการ ว่ากันว่าใครก็ตามที่ได้ครอบครองแมวขาวมณี จะได้รับความโชคดีในทุกด้าน มีกินมีใช้ตลอดชีวิต และได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบตัว แมวขาวมณีจึงไม่เพียงเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเสน่ห์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความมั่งคั่ง และถูกยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งแมวไทย” ที่ทุกคนต่างยอมรับและให้ความเคารพมาอย่างยาวนาน “แมวโกญจา” (Konja) – พลังลึกลับแห่งรัตติกาล “แมวโกญจา”