Skip links

30 เมษายน วันชานมไข่มุกแห่งชาติ ย้อนรอยยุทธศาสตร์เครื่องดื่มหวานร้อย

ชานมไข่มุก เครื่องดื่มเพิ่มน้ำตาลในเลือดขวัญใจชาวเราที่ต้องดื่มทุกวันเหมือนเป็นอวัยวะที่ 34 แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ใครกันที่สรรสร้างสวรรค์ในรูปแบบเครื่องดื่มหวานร้อยลูกกลมๆ แบบนี้ขึ้น

แน่นอนว่าจากชื่อก็พอจะรู้ว่าต้นกำเนิดมากจากไต้หวัน แต่ในสมัยก่อน ยังไม่มีความสำคัญเรื่องการจดลิขสิทธิ์ ทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่ก็มีเรื่องเล่ายอดนิยมอยู่ 2 เรื่อง

 

เรื่องเล่าแรก เกิดขึ้นในปี 1986 ที่ร้านชา ฮันหลิน เมืองไถหนาน โดยถัวซ่งเหอ-เจ้าของร้าน นำแป้งมันสัมปะหลังเชื่อมน้ำตาล ลักษณะคล้ายสาคู ซึ่งเป็นขนมหวานไต้หวันใส่ลงไปในชา เกิดเป็นเมนูชาไข่มุกขึ้นในที่สุด

 

อีกเรื่องเล่าหนึ่ง เกิดขึ้นในปี 1988 ที่ร้านชาชุน ฉุ่ย ถัง เมืองไถจง โดยในส่วนของชา หลิว ฮั่นฉี-เจ้าของร้าน เดินทางไปญี่ปุ่นแล้วเห็นการดื่มชาและกาแฟแบบเย็น จึงกลับมาเปิดร้านชาร้านนี้ เพื่อขาย ชาเย็น บ้าง เพราะเดิมที ไต้หวันนิยมดื่มเพียงชาร้อนเท่านั้น

ต่อมาขณะที่ หลินชิ่วฮุย-ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กำลังประชุมอยู่ที่ร้าน รู้สึกเบื่อ จึงเท “เฟิ่นเหยียน” ขนมหวานของไต้หวันที่ทำจากแป้งมัน ลักษณะคล้ายขนมโมจิ ลงไปในชา เมื่อลองกินแล้วพบว่าอร่อย จากนั้น ทดลองทำแจกให้พนักงานชิมก่อนจะขายเมนูนี้ในที่สุด ทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูยอดนิยมของพื้นที่นี้

 

ไม่ว่าเรื่องเล่าใดจะจริงแท้หาใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้ชานมไข่มุกนั้นได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่นิยมไปทั่วโลก เกิดธุรกิจแบรนด์ชานมไข่มุกที่กระจายตัวอยู่ทุกพื้นที่ในเอเชียและยุโรป ในช่วง 1990 แต่ก็ซบเซาลง ด้วยกระแสเครื่องดื่มที่เกิดขึ้นต่อมา

กระทั่งในปี 2016 ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวันผลักดันนโยบาย New Southbound Policy เที่ยวไต้หวันฟรีวีซ่า พร้อมส่งเสริมให้ “ชานมไข่มุก” เป็นเครื่องดื่มประจำชาติที่ต้องลอง

ต่อมาในปี 2017-2018 นโยบายเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น รัฐบาลจึงเริ่มหยิบชานมไข่มุกของร้านฮันหลินมาเสิร์ฟเลี้ยงรับรองแขกของรัฐบาลจากทั่วโลก

ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวไต้หวัน สายการบินแห่งชาติไต้หวันอย่าง EVA หรือ China Airlines ผู้ที่มาท่องเที่ยวไต้หวันมักมีโอกาสได้ชิมรสชาติชานมไข่มุกแบบไต้หวัน ในกรุงไทเประหว่างการพักต่อเครื่องที่สนามบินไทเปเถาหยวน

 

ส่วนภาคเอกชนก็มีการตอบรับนโยบายชานมไข่มุกนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงนั้นเราจะเห็นได้ว่าตามท้องตลาดเต็มไปด้วยสินค้ารูป รส กลิ่น ชานมไข่มุกออกมาจำนวนมาก กลายเป็นกระแสชานมไข่มุกฟีเวอร์หนักถึงขั้นมีกะเพราชานมไข่มุก คั่วไก่ไข่มุก ก๋วยเตี๋ยวไข่มุก พิซซ่าไข่มุก ลูกอมไข่มุก และอื่นๆ อีกมาก

ความฟีเวอร์ของชานมไข่มุกยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะในปี 2019 ร้าน “Kung Fu Tea” ร้านชานมไข่มุกไต้หวันที่มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อยากให้วันที่ 30 เมษายนของทุกปีเป็นวันชานมไข่มุกแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันก่อตั้งของร้าน Kung Fu Tea จึงยื่นเรื่องเสนอแก่ National Calendar และได้รับการตอบรับและแต่งตั้งในที่สุด

ผลจากการผลักดันนโยบาย “ชานมไข่มุก” นอกจากจะสร้างฐานเศรษฐกิจแบบครบจบในประเทศให้ไต้หวันตั้งแต่ใบชาจนไข่มุกแล้ว ชานมไข่มุกยังกลายเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของไต้หวัน พร้อมเป็นเครื่องยืนยันทางวัฒนธรรมที่เด่นชัดว่าไต้หวันมีวัฒนธรรมหนึ่งของตัวเองที่เด่นชัดและแยกขาดจากจีน

อ้างอิง

https://voicetv.co.th/read/B1eivkqFm#google_vignette

https://www.harbourcity.com.hk/…/the-originator-of…/