Skip links

PR

#ดูลิเกเท่จะตาย ชวนดูลิเกแบบจอสระอึ้ง จึ้งเกิ๊น!

2-3 มีนาที่ผ่านมา “สยามเซ็นเตอร์” ยกโรงลิเกมาไว้ใจกลางสยาม ปลุกกระแส #ดูลิเกเท่จะตาย พร้อมพานักแสดงนำจากซีรีส์ “ขอเป็นพระเอกในหัวใจพระเอก?”  ซาเล้ง พิชญ์ธีร์ คล้ายมงคล, อิน อินทัช กูรมะสุวรรณ และแขกรับเชิญพิเศษ จิรัฎฐ์ คล้ายมงคล (เบิร์ดเดย์ ศรทอง), และ ธนัชชา ต่ายคำ (น้องปอย ลูกท่าเรือ) มาตั้งวงแสดงลิเกให้แม่ยก พ่อยกส่งเสียงเชียร์ทั่วเอเทรี่ยม 1 สยามเซ็นเตอร์  นับเป็นมิติใหม่แห่งวงการซีรีส์ที่เริ่มนำ “การแสดงลิเก” มาถ่ายทอดในมิติที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยซีรีส์ “ขอเป็นพระเอกในหัวใจพระเอก” ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกัน ของ P.PICHA บอกเล่าเรื่องราวของพระเอกหนุ่ม “แจ็ค ธีรดนย์” (รับบทโดย อิน อินทัช) ที่ต้องมาเรียนลิเกจากพระเอกลิเกชื่อดัง “จา จมากร” (รับบทโดย ซาเล้ง พิชญ์ธีร์ )  แค่หน้าปกก็เรียกได้ตรงปกสุดๆ เพราะในชีวิตจริง ซาเล้ง เองก็เป็นหนึ่งในพระเอกลิเกเสียงใสขวัญใจแม่ยกที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ หยกขาว ศรทอง เข้ามาเพิ่มความน่าติดตามให้เรื่องนี้ไปอีกขั้น    สามารถรับชมการแสดงลิเกสดย้อนหลัง ได้ที่  https://www.facebook.com/YimyaiStudio  https://www.facebook.com/SiamCenter/posts/pfbid0nUQv7gfh2nHZFmN5qN7VSwjcztBjbgxidGypE6bLNHyLxHFfUfSmKe3xZ5KfsK7fl

Adidas x Bob Marley รองเท้ารุ่นพิเศษ จากผู้เป็นมะเร็งนิ้วเท้า กล้าซื้อใส่กันไหม!?

สายเขียวว่าไงงง หลังจากมีข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า Adidas เตรียมเปิดตัวรองเท้าวิ่งตัวใหม่ในรุ่น SL 72 ด้วยคอนเซ็ปต์แบบย้อนยุค และที่สำคัญยังเป็นการคอลแลบกับ Bob Marley ตำนานเร็กเก้ราชันย์สัญชาติจาไมก้า โดยภาพตัวอย่างรองเท้ารุ่นพิเศษนี้ถูกเปิดเผยจาก Zuri Marley ผู้มีศักดิ์เป็นหลานสาวของตำนานผู้ล่วงลับ ผ่านช่องทาง TikTok ส่วนตัว    สำหรับความโดดเด่นของ Adidas SL 72 x Bob Marley รุ่นนี้คือ มีการประทับรูปของ Bob Marley ไว้ที่ลิ้นของรองเท้า ส่วนพื้นรองเท้าก็มีสีเขียว, เหลือง และแดง อันเป็นสีประจำชาติของชาวเร็กเก้ อีกทั้งยังมีลายเซ็นสีเหลืองทองของตำนานสันติภาพสลักไว้บริเวณส้นรองเท้าด้านนอก แม้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากค่ายสามแถบอย่างเป็นทางการ รวมถึงราคาก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ทว่าทาง Complex สื่อบันเทิงและไลฟ์สไตล์ชื่อดัง คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวให้เหล่าผู้ศรัทธาศาสดาเอกแห่งแนวเพลงอันรื่นรมย์ ได้ครอบครองบูชาในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง   ทั้งนี้ Bob Marley นับว่าเป็นศิลปินที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งในระยะสุดท้ายของชีวิต Bob Marley ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังบริเวณนิ้วเท้า ต่อมา เขาประสบอุบัติเหตุอย่างหนักจากการเล่นฟุตบอล แม้จะมีเรื่องที่ถกเถียงกันว่า เขาเป็นมะเร็งก่อนหรือหลังประสบอุบัติเหตุ ทว่าการปฏิเสธการรักษา โดยมุ่งหน้าแสดงดนตรีและเล่นฟุตบอลต่อไปของเขา ยิ่งส่งผลร้ายต่อร่างกายก็เป็นสิ่งที่มีมูลต่อวาระแห่งชะตากรรม การจะผลิตรองเท้ารุ่น Bob Marley ผู้เป็นมะเร็งนิ้วเท้าออกมา ต่างชาติอาจจะไม่ติดใจอะไร แต่เรื่องแบบนี้คนไทยเขาค่อนข้างถือกัน แต่ก็ไม่แน่นะ สาวก Bob Marley ในบ้านเรา อาจจะมีศรัทธาที่อยู่เหนือธรรมเนียมใดๆ    แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ กล้าซื้อมาใส่ไหม!?

สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ การ์ตูนธรรมะเคลือบช็อกโกแลต จากคำสอนพระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี

ในยุคที่คนเสพติดโซเชียล ลืมตาตื่นขึ้นมาทุกเช้าก็คว้ามือถือไถหน้าจอเสพคอนเทนต์ที่ AI ยกมาเสิร์ฟได้แบบรู้ใจ จึงกลายเป็นงานท้าทายของพระสงฆ์ผู้มีหน้าที่โดยตรงในการเผยแผ่พระธรรมคำสอน และส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวรสืบไป เพราะความสนใจของคนในยุคนี้ถูกดึงดูดจากโซเชียลมีเดียจนแทบไม่มีเวลาเหลือให้สิ่งอื่น ทำให้ธรรมะแบบเดิมๆ  เมื่อเอามาเทียบกับคอนเทนต์ที่เน้นความบันเทิงแล้ว กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและถูกมองว่าน่าเบื่อจนต้องรีบเลื่อนผ่านกันเลยทีเดียว นั่นจึงกลายเป็นที่มาของ  “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ”  แอนิเมชั่นที่จะมาช่วยดึงสติและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อธรรมะของผู้คน  โดยความร่วมมือของ  มูลนิธิวิมุตตยาลัย,  มูลนิธิพุทธรักษา,  มูลนิธิอริยวรารมย์,  เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์,  ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล  และ ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น  ซึ่งเนื้อเรื่องในแอนิเมชั่นนั้นสร้างจากแรงบันดาลใจและหลักธรรมคําสอนของ  “พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี”  ผ่านตัวละครเณรน้อย “สติมา”  เพื่อหวังให้เกิด Global Mindset  ที่ว่า  “We are One โลกทั้งผองเป็นพี่น้องกัน”  ที่จะทำให้ประชาคมโลกอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นและเป็นสุข พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี ประธานกรรมการมูลนิธิวิมุตตยาลัย กล่าวว่า “แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นนวัตกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป้าหมายคือการส่งต่อไปยังประชาคมโลก เป็นการทำแพ็คเกจจิ้งให้น่าชื่นชม และกลายเป็น ‘ธรรมะเคลือบช็อกโกแลต’ ที่เข้าใจง่าย สบายๆ ทุกคนสามารถนำมาใช้ได้ในการดำเนินชีวิตจริง ทุกวันนี้เราอยู่กับสื่อโซเชียลมีเดีย พระอาจารย์อยากให้ทุกคนลองถามใจตัวเองดู เราแต่ละคนเข้าไปจ่อมจมในโลกโซเชียลมีเดียกันนานแค่ไหน สื่อเหล่านั้นหากพิจารณาให้ดีย่อมมีทั้งคุณและโทษ ถ้าเราเลือกเสพให้เป็น เราก็จะได้เนื้อหาสาระที่ดี อย่างเรื่อง “สติมา” นี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งสื่อที่จะช่วยเรียกสติของผู้คน เป็นความสนุกสนานที่ผสานเข้ากับธรรมะ ช่วยให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ดั่งคำที่ว่า “เมื่อสติมา ปัญญาเกิด” นั่นเอง” ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด  และบริษัทในเครือ และประธานมูลนิธิอริยวรารมย์ กล่าวว่า “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ เป็นแอนิเมชันที่ตั้งใจสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ให้เกิดขึ้นบนสังคมไทยและสังคมโลก ซึ่งภายในแอนิเมชันซีรีส์จะมีเณรน้อยที่ชื่อว่า สติมา เป็นผู้ดำเนินเรื่องคอยให้ความรู้แก่น้องๆ เยาวชน และครอบครัวยุคใหม่ได้รับชมกันแบบเต็มอิ่ม ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เคยสร้าง “เชลล์ดอน” ให้กลายเป็นตัวละครที่อยู่ในความทรงจำของเด็กๆ ทุกคนและโด่งดังไปมากกว่า 180 ประเทศทั่วโลกมาแล้ว ซึ่งโปรเจกต์นี้ไม่ใช่แค่ทำแล้วจบไป แต่เป็นโปรเจกต์ที่ทำต่อเนื่องแบบยั่งยืน

พาไปอัพเดต พรบ.สมรสเท่าเทียม เราจะเริ่มเท่าเทียมได้ตอนกี่โมง!

“รัก..แลก..แจก..แถม”   วาเลนไทน์ปีนี้   กทม.  เตรียมความพร้อมสำหรับการจดทะเบียนสมรส และ “จดแจ้งชีวิตคู่”  สำหรับกลุ่ม  LGBTQI+  ที่ 50  สำนักงานเขตทั่วกรุงเทพ มหานคร ด้วยชื่อแคมเปญ “รัก..แลก..แจก..แถม”  โดยผู้ที่เข้าจดทะเบียน / จดแจ้ง ในวันที่ 14 ก.พ. นี้ จะได้รับสิทธิตรวจสุขภาพคู่รักฟรี ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสังกัดกทม. ระยะเวลาในการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. – 15 ส.ค. 2567 กรณีตั้งครรภ์ภายใน 6 เดือน สามารถรับบริการตรวจครรภ์ฟรี อย่างไรก็ดี กิจกรรม  “จดแจ้งชีวิตคู่”  สำหรับกลุ่ม LGBTQI+  นี้  มิได้มีผลทางกฏหมาย เนื่องจากกฎหมายแม่ หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมยังไม่มีผลประกาศใช้ หากแต่เป็นการแสดงเจตนารมย์ที่ให้ความสำคัญแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียมกัน  รวมถึงแสดงความพร้อมสำหรับการดำเนินการ เพราะหาก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ประกาศใช้เมื่อไหร่ กทม. พร้อมจัดการให้ทันที   สามารถลงทะเบียนจดแจ้ง / จดทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScRQiLXPXbyJZp3-17WjjukAfVg1j3ERFMjEqCELyCtfSHQag/viewform   แล้วตอนนี้ “พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” อยู่ในขั้นตอนไหน? หลังจากที่ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมซึ่งมีผู้เสนอทั้งหมด 4 ฉบับ (ฉบับประชาชน, ฉบับพรรคก้าวไกล, ฉบับพรรคประชาธิปัตย์ และฉบับ ครม.)  ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาในวาระแรก และมีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 4 ฉบับ  จากนั้น คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณารายละเอียดของทั้ง 4 ร่าง หรือปรับปรุงแก้ไข (ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนนี้) ก่อนจะเสนอกลับให้ที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ และยื่นเสนอต่อวุฒิสภาในลำดับถัดไป ทั้งนี้ หาก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มีการประกาศใช้เมื่อไหร่ จะทำให้คู่รัก LGBTQI+ ได้รับสิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วมกัน สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน สิทธิในการรับมรดกจากคู่สมรส รวมไปถึงการตัดสินใจแทนกันทางการแพทย์ โดยทั้งหมดนี้คือ สิทธิในการเป็นคู่รักกันอย่างเท่าเทียม กระนั้นก็ตาม ในทางกฏหมายก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ในหลายประเด็น ทั้งเกณฑ์อายุที่จะแต่งงานกันได้ การหย่าร้าง หรือการเปลี่ยนคำจาก “บิดา-มารดา” เป็น

‘หลินอี’ ร่วมฉลองตรุษจีน “รวย รวย ปัง ปัง” กับ ‘‘8 มหัศจรรย์ปีมะโรง” ที่ Siam Paragon

สยามพารากอน จับมือธนาคารกสิกรไทย ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้อนรับ ปีมะโรงอย่างยิ่งใหญ่ กับงาน  “Siam Paragon Golden Prosperous Chinese New Year 2024: The Greatest Year of The Dragon” ระหว่างวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สยามพารากอน  โดย ‘หลิน อี’ เปิดตัวอย่างสุดอลังการมาพร้อมกับการเชิดมังกรสองกษัตริย์มิ่งมงคล เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นจากเหล่าแฟนๆ หรือเหล่า ‘เว่ยอี้’  พร้อมกล่าวว่ารู้สึกยินดีอย่างมาก ที่ได้บินตรงมาร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ประเทศไทยในปีมังกรนี้  นอกจากนี้ เทศกาลฉลองตรุษจีนปีมะโรงที่สยามพารากอนปีนี้ ยังจะได้สัมผัสความตระการตากับ ‘8 มหัศจรรย์เบิกศักราชปีมะโรง’ เบิกฤกษ์รับเทศกาลตรุษจีนด้วย มหัศจรรย์หมายเลข 1:  เต็มอิ่มกับความบันเทิงเต็มพิกัด  ซึ่งนอกจากการปรากฏตัวของ หลินอี แล้ว ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567  ยังจะได้พบกับ ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่  ที่จะมาพร้อมกับ เครื่องประดับไฮจิวเวอรี คอลเลคชั่น  “Serpenti”  จาก Bulgari  (บุลการี) ควงคู่ กลัฟ –   คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์  และพบกับ 10 ตัวแทนเด็กฝึกสาว จากรายการ  CHUANG ASIA (ช่วง เอเชีย)  รายการไอดอลเซอร์ไววัลระดับเอเชีย มหัศจรรย์หมายเลข 2:   ‘Tranquil Serenity Dragon’ ผลงานอาร์ต อินสตอลเลชั่นมังกรสีพาสเทลยักษ์สูง 6 เมตร ออกแบบโดยศิลปินระดับโลกชาวอเมริกัน Anchorball (แองเคอร์บอล) หรือ Ken Kelleher (เคน เคลเลอร์) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรังสรรค์อาร์ต อินสตอลเลชั่นขนาดยักษ์  ที่ได้จัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งในนิวยอร์ค, การ์ตาร์, จีน และ อินโดนีเซีย

oneD ORIGINAL เล่นใหญ่ จัดเต็ม ไม่น้อยหน้าใคร

เปิดตัวไปด้วยความร้อนแรง ระดับที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้ใคร สำหรับ “oneD ORIGINAL – NEW ERA OF THAI CONTENT ศักราชใหม่ของคอนเทนต์ไทย” ไลน์อัพซีรีส์เรื่องใหม่ของช่อง one ที่ในปีนี้ ซึ่งยกโขยงนักแสดง ผู้กำกับ ฝ่ายเขียนบท และทีมงานทั้งหมด มาสร้างมาตรฐานคุณภาพคอนเทนต์ไทยให้ไปอีกระดับ ด้วยซีรีส์ 5 เรื่อง 5 รสชาติ ที่เพียงแค่ปล่อยทีเซอร์ออกมาก็สัมผัสได้ถึงความใส่สุดแบบไม่น้อยหน้าใคร อาทิ “บางกอกคณิกา Bangkok Blossom” เรื่องราวการต่อสู้เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นคนของเหล่าโสเภณี หรือที่ในเรื่องนี้กล่าวออกมาชัดๆ ว่า “กะหรี่” ผลงานกำกับการแสดงของ ‘สันต์ ศรีแก้วหล่อ’ ที่นำขบวนนักแสดงอย่าง ก้อย อรัชพร, ชาร์เลท วาศิตา, พิยดา อัครเศรณี, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, ก้อง วิทยา, เพิร์ล ศัจกร, รัศมีแข ฯลฯ  มิหนำซ้ำ “บางกอกคณิกา” ยังได้พลิกบทบาทอดีตมิสแกรนด์อย่าง “อิงฟ้า วราหะ” ให้มารับบทเป็นหญิงบริการผู้มีความใฝ่ฝัน จึงทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้พร้อมเสิร์ฟความมันส์ และความเร่าร้อนระดับ 8.10 ริกเตอร์ไปยังทุกครัวเรือนที่รับชม  นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ปล่อยตัวอย่างออกมาแล้วก็สามารถชักจูงสายตาผู้ชมไปค่อนประเทศ นั่นก็คือ “แม่หยัว” The Empress of Ayodhaya” เรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจาก “แม่อยู่หัว” แห่งอโยธยา สู่หน้าที่อันยิ่งใหญ่ซึ่งเดิมพันด้วยอำนาจ และหัวใจ แค่เพียงทีเซอร์ก็เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ ของงานโปรดักชั่นที่เหนือชั้นกว่าที่ผ่านมา รวมถึง “ท่าพับเป็ด” ของ ‘ใหม่ ดาวิกา’  ซึ่งกระชากจิตและชวนลุ้นไปกับความเข้มข้น “แม่หยัว” นำแสดงโดย ใหม่ ดาวิกา, ฟิล์ม ธนภัทร, ตุ้ย ธีรภัทร, เฟิร์น นพจิรา, บิ๊นท์ สิรีธร, พ้อยท์ ชลวิทย์, แป้ง อรจิรา

เตรียมแพ็คกระเป๋าเที่ยวกันรึยัง! 1 มีนาคมนี้ เปิดฟรีวีซ่าถาวร ไทย-จีน แล้วนะ

หลังจีนทดลองฟรีวีซ่าชั่วคราว 6 ประเทศ ในวันที่ 24 พ.ย. 2566 ได้แก่  ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สเปน และมาเลเซีย เป็นที่น่าเสียดายที่ยังไม่มีประเทศไทย อยู่ในลิสต์ ณ ตอนนั้น ร้อนถึงรัฐบาลต้องเปิดโต๊ะเจรจากินเวลากว่า  3 เดือน จนนายกเศรษฐา ทวีสิน ก็ประกาศข่าวดีต้อนรับต้นปี 2567 เพื่อสานต่อการยกเว้นวีซ่าชั่วคราว ให้กับคนจีนที่เดินทางมาไทย ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งใกล้จะหมดเขตลง โดยทั้งนักท่องเที่ยวทั้ง  2 ประเทศสามารถเดินทางไป ไทย-จีน แบบไม่ต้องขอวีซ่าถาวรได้แล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 นี้! เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567  จีนจะยกเลิกการขอวีซ่าสำหรับคนไทยถาวร   ทำให้ผู้ที่เดินทางทั้งสองประเทศ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่ากันอีกต่อไป   “สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ สามารถพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน  รวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน  ภายในช่วงเวลา 180 วัน (ยกเว้นกรณีการพำนักถาวร การทำงาน การศึกษา กิจกรรมด้านสื่อ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้า)” นายเศรษฐากล่าวเสริมว่า การฟรีวีซ่าถาวรครั้งนี้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศและยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทยให้สูงขึ้น จึงแจ้งไปยังกรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ว่า  “เราพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศ และจะดูแลนักท่องเที่ยวของ 2 ประเทศให้ดีด้วย” หลังข่าวฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีน ปล่อยออกมาไม่นาน  “Trip.com”   บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ของจีน เผยว่า คำสืบค้นเกี่ยวกับ “ไทย” เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 90 รวมถึงคำค้นหาเกี่ยวกับ “เที่ยวบินเซี่ยงไฮ้-กรุงเทพฯ” “ปักกิ่ง-กรุงเทพฯ” และเที่ยวบินอื่นๆ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ

Coldplay Concert เสิร์ฟดราม่าฉ่ำ พวกแกกำลังทำให้ฉันดูแย่!

เสาร์-อาทิตย์ ( 3 – 4 ก.พ.)  ที่ผ่านมา ใครได้ไปคอนเสิร์ต Coldplay Music Of The Spheres World Tour Bangkok 2024 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน คงอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดอลัง และงานโปรดักชั่น แสง สี เสียง แบบฉ่ำๆ นับว่าเป็นคอนเสิร์ตคุณภาพของวงดนตรีฝีมือระดับโลก ที่มาแสดงโชว์ในไทยเป็นครั้งที่ 3 ได้อย่างน่าประทับใจ แน่นอนว่า เวลามีงานสเกลระดับโลกมาจัดที่บ้านเราเช่นนี้ ก็ย่อมสร้างความอิ่มอกอิ่มใจว่า ประเทศเราพร้อมรองรับงานระดับโลก และพร้อมเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมต่อการสร้างประสบการณ์อันสวยงาม และความทรงจำดีๆ ร่วมกันระหว่างแฟนคลับกับศิลปิน ทั้งนี้ การที่ศิลปินระดับโลกจะเลือกมาแสดงที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็ย่อมประเมินจากหลายๆ ปัจจัย อาทิเช่น ฐานแฟนคลับ กำลังซื้อของผู้คนในประเทศนั้น ค่าใช้จ่าย / ค่าแรงในการจัดงาน เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ / การเมือง แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่การที่งานระดับโลกเลือกมาจัดงานที่ประเทศใดๆ ก็อาจจะสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของชาตินั้นๆ ได้ไม่มากก็น้อย และถึงแม้ว่ารายได้หลักของงานลักษณะนี้จะอยู่ที่ตั๋วเข้าชม ซึ่งต่างชาติโกยหอบกลับไปเสียเยอะ ทว่าเม็ดเงินที่สะพัดในแต่ละครั้ง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ที่อยากมาร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ดังกล่าว ก็ย่อมเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้จัดงาน ซึ่งในบริบทนี้ก็คือ “ไทยแลนด์” ฟังดูแล้วอาจจะน่าภูมิใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่องานจบ… ความจริงก็ถูกเปิดเผย… เนื่องจากมวลชนที่ทะลักล้นออกมากจาก ราชมังฯ เมื่อคอนเสิร์ตเลิกหลักหลายหมื่นคน จนไม่สามารถเรียกหาขนส่งสาธารณะเพื่อเดินทางกลับที่พักได้ สำหรับคนเหล่านี้มีให้เลือกสองทางคือ หนึ่ง ยอมขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่มาเทียบรออยู่แล้วใกล้ๆ ซึ่งมีทั้งวินจริงบ้าง วินเถื่อนบ้าง แต่บอกก่อนว่า ค่าบริการนั้นแพงหูฉี่ คือคนขับกะเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนกันเลยทีเดียว กับทางที่สอง คือเดินไปตายเอาดาบหน้า ไปหาเรียกรถไกลๆ เพื่อจะได้ค่าบริการที่ถูกลง แต่ในความรู้สึกก็ไม่ต่างอะไรจากการเดินไปโดยไม่รู้จุดหมาย ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะจะว่าไปแล้ว ภาพเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้จนชินตา แต่ครั้นจะบอกว่านี่เป็นความจริงที่ถูกเปิดเผยหลังเลิกงานก็คงไม่ถูกนัก เนื่องเพราะ “คนไทย” ที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตนี้ต่างได้แชร์ประสบการณ์ที่ได้พบเห็น “ของจริง” ตั้งแต่ในงานแล้ว เพราะแม้งานนี้จะขึ้นชื่อว่า Live in Bangkok ทว่าคงไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่า ท่านผู้ชมทั้งหลาย “เกินครึ่ง” ในสองวันนั้น “ไม่ใช่คนไทย” ดั่งที่ผู้ใช้

Netflix เปิดผังคอนเทนต์คุณภาพ 2024 ต้านคำครหา ระเบียบเยอะ! จ่ายรายเดือนแพง!

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 Netflix Thailand ประกาศไลน์อัพนักแสดง และคอนเทนต์ประจำปี 2024 ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยกองทัพนักแสดง และผู้กำกับมากหน้าหลายตา ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ เรียกได้ว่าขนกันมาเพียบ อย่างไรก็ดี ในห้วงที่ผ่านมาสื่อสตรีมมิ่งฝั่งสีแดงเจ้านี้ต้องเผชิญกับข้อครหาในด้านราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย และกติกาที่เปลี่ยนใหม่ ทำให้เกิดกระแสพูดคุยกันในโลกออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งยังเกิดข้อเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นๆ อีกด้วย กระนั้นก็ตาม เมื่อสาดสายตาส่องคอนเทนต์ประจำปี  2024  ของ Netflix ดูแล้ว  จะพบว่ามีคอนเทนต์ที่น่าติดตาม ทั้งในระดับโลกอย่าง   Squid Game ซีซั่น 2, Gyeongseong Creature ซีซั่น 2 , Avatar : The Last Airbender และอื่นๆ อีกมากมายเกินจะกล่าวได้หมด และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือคอนเทนต์สัญชาติไทยของเรา ที่ในปีนี้มีมาถึง 8 เรื่อง โดยถ้าดูจากเนื้อเรื่องโดยย่อ จะเห็นได้ว่ามีอยู่สองเรื่องที่ถ้าทำออกมาได้ดีแล้วล่ะก็ อาจจะสามารถท้าทาย และใต่เพดานการวิพากษ์วิจารณ์สังคมได้เลยทีเดียว ทั้งซีรีส์เรื่อง “The Believers สาธุ” ของผู้กำกับ วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ ที่เป็นแม่ทัพนำนักแสดงอย่าง เจมส์-ธีรดนย์, พีช-พชร จิราธิวัฒน์ และ แอลลี่-อชิรญา มาร่วมกันเชิญชวนผู้ชมอย่างเราๆ  ขบคิดและตั้งคำถามไปถึงใจกลางปัญหาของพุทธศาสนาไทย ก็คือเรื่อง “พุทธพาณิชย์”  ที่หากินกับความเชื่อ ความศรัทธาของผู้คน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญ อันพบเห็นได้อย่างกลาดเกลื่อนเกินควบคุม ในสังคมไทย ทั้งนี้ แม้พล็อตเรื่องและนักแสดงนำในเรื่องจะน่าสนใจขนาดไหนก็ตาม แต่ตลกร้ายคือ ในช่วงที่ผ่านมา มีคอนเทนต์จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่หยิบยกประเด็นทางพุทธศาสนา, พระสงฆ์, สามเณร มานำเสนอ แล้วถูกแบนหรือโดนสั่งให้ตัดฉากนั้นๆ ออกไป กระทั่งสั่งห้ามฉายในประเทศก็เคยมีมาแล้ว ทว่า ภายใต้รัฐบาลที่พยายามจะปลดล็อคกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ และมุ่งขยายเสรีภาพในการนำเสนอ การจี้ไปยังหัวใจหลักของปัญหาพุทธศาสนาไทยผ่านซีรีส์เรื่องนี้ จะเป็นการยกระดับขอบเขตการวิพากษ์วิจารณ์ ได้หรือไม่? อย่างไร? ก็ต้องรอดู รอชม และไม่ใช่แค่เรื่องศาสนาเท่านั้นที่ถูกกล่าวถึง คอนเทนต์ไทยของ

MYSTIC VALLEY FESTIVAL 2024 ​เทศกาลดนตรี EDM กลางหุบเขาสุดล้ำ โยกกันแบบ Non stop 2-4 กุมภาพันธ์นี้

ใครกำลังมองหาประสบการณ์เทศกาลดนตรี EDM แบบล้ำๆ ท่ามกลางหุบเขา “MYSTIC VALLEY FESTIVAL 2024” กลับมาอีกครั้ง ให้ทุกคนเตรียมแพ็คกระเป๋า จองที่พัก มาฟิน มาอินกับศิลปิน และดนตรี EDM ในวันศุกร์ที่ 2 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ รีสอร์ต “Mountain Creek” จังหวัดนครราชสีมา  โดยภายในงานคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ EDM ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของเขาใหญ่ พร้อมด้วยการยกทัพศิลปินกว่า 70 คน จัดเต็มแนวดนตรี EDM หลากหลายสไตล์มาให้ชมกันถึง 10 เวทีในงานเดียว ไล่ตั้งแต่ 1. “Mustache” ที่เชี่ยวชาญในส่วนของดนตรี House และ Techno  2. “Hardstyle Thailand” เน้นแนวดนตรีฮาร์ดสไตล์ โดยเฉพาะ  3. “Trance Lovers Thailand” เน้นดนตรีแนวแทรนซ์  4. “EDM Addicts” ที่จัดขึ้นเพื่อเอาใจแฟนเพลงสาย EDM ไว้โยก ไว้ตื๊ด  5. “Urban Music Bar Stage” ที่ Represent แนวดนตรี Hip Hop และ Trap เอาใจแก๊ง Hip Hop Culture  6.  “Epic Stage” ประกอบไปด้วยแนวดนตรี Deep House Tech House และ Techno สุดไพเราะ 7. “Headbanger Stage” บ้านของ Dubstep และ Bass แห่งอนาคต  8. “Energy Stage”เน้นเฉพาะแนวเพลงที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน  9. “Unaharn stage”