Skip links

‘พิษ’ และ ‘ภัย’ ทำเมืองไทยซบเซา ตรุษจีนปีนี้ ทำไมไทยไม่น่าเที่ยว?

เทศกาลตรุษจีนที่ปกติควรจะคึกคัก อบอวลด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองและความอบอุ่น ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่พบได้ทั่วไปในช่วงเทศกาล แต่ทว่าในปีนี้ สื่อหลายแห่งกลับรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า ย่านการค้าในตัวเมืองเงียบเหงากว่าทุกปี ร้านค้าตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงและมังกรกระดาษเหมือนเช่นเคย แต่กลับไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างที่หวัง แม้ว่าตรุษจีนจะเป็นฤดูกาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย แต่ปีนี้ บรรยากาศดูซบเซา ลูกค้าบางตา ชุดกี่เพ้าและเสื้อผ้าสีแดงตามร้านค้าก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการเท่าปีก่อนๆ

ถึงแม้ว่าราคาสินค้าจะไม่ได้แพงขึ้นจากปีก่อนสักเท่าไหร่ แต่เนื่องด้วยความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายคนจำต้องรัดเข็มขัด อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด อีกทั้งพึ่งจะผ่านปีใหม่กับวันเด็กมาได้ไม่นาน จึงช่วยไม่ได้ที่หลายรายต้องคิดแล้วคิดอีก หากจะจับจ่ายใช้สอยในช่วงตรุษจีน 

นอกจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศตรุษจีนปีนี้คือ ปัญหา PM 2.5 ในหลายพื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งถูกปกคลุมด้วยฝุ่นพิษ หลายโรงเรียนให้เรียนออนไลน์-งดกิจกรรมกลางแจ้ง สภาพอากาศเช่นนี้ผู้คนจำนวนมากจึงหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน 

แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างพัทยา ที่นั่นสถานการณ์ก็ไม่สู้ดี เพราะหลังจากเกิดกรณีของ “ซิงซิง” ดาราจีนที่ถูกสแกมเมอร์หลอกมาไทย แต่ถูกส่งตัวไปกักขังในประเทศเพื่อนบ้าน ข่าวนี้แพร่สะพัดไปในโลกออนไลน์จีนอย่างรวดเร็ว และปฏิเสธไม่ได้ว่ากระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างรุนแรง ถึงขนาดมีคนจีนประกาศเตือนกันว่า อย่ามาประเทศไทย เพราะที่นั่นไม่ปลอดภัย

ทำให้นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของพัทยาหายไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ปกติช่วงตรุษจีน พัทยาจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากช่วงปกติ แต่ปีนี้กลับซบเซาลง

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเดินทางไปประเทศอื่นแทน เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินและทัวร์รายงานว่าจำนวนผู้จองตั๋วไปเวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 50-58 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ความต้องการไปฮ่องกงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า

เอาเข้าจริง ขณะนี้รัฐบาลไทยก็พยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน มีการพูดคุยกับรัฐบาลจีนเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว รวมถึงพิจารณามาตรการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร

เพราะในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเฝ้ารอเทศกาลแห่งความสุข ตรุษจีนปีนี้กลับสะท้อนปัญหาหลายด้านที่ยังแก้ไม่ตก ทั้งเศรษฐกิจที่เปราะบาง มลพิษทางอากาศ และภาพลักษณ์ของประเทศที่น่าเป็นห่วง ความเงียบเหงาที่ปกคลุมเทศกาลครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์ชั่วคราว แต่เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า เฉพาะยิ่งในรัฐบาลที่ปักธงเรื่อง Soft Power แล้วล่ะก็ นับว่ายิ่งต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้อย่างจริงจัง

อ้างอิง : 

https://www.matichon.co.th/region/news_5020559

https://www.one31.net/news/detail/73633?fbclid=IwY2xjawIG1utleHRuA2FlbQIxMAABHZzsw72vkcIlIycYsQEy8m_Iy6dcVM2ImjBNohTy3xjEemZd2pdP4_frDg_aem_7jrYPTNxa9axni4h3MPbcw

https://www.reuters.com/world/china/china-readies-lunar-new-year-amid-worries-about-economy-2025-01-24/?fbclid=IwY2xjawIG1upleHRuA2FlbQIxMAABHeCjrRAOwW-nhhcnfIvu4XFjr9X8mq1ZHKiXGf6Ll0H1U_Oxgh6TTVINrw_aem_xjBX7PYYJyAJdZDAs3WrwA