ในฝั่งกีฬา “มวยไทย” พี่กะเทยเคยฝากประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทยมาแล้ว โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุด หากย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คงจะหนีไม่พ้น “ตุ้ม-ปริญญา เจริญผล” – อดีตแชมป์มวยไทยแห่งสนามมวยเวทีลุมพินี ผู้ขี้นสังเวียนชกพร้อมกับ “เครื่องสำอาง” สีสันสดใส ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากในสมัยนั้น แต่สิ่งนี้ก็มีส่วนช่วยให้พาเธอล้มนักมวยไทย และต่างชาติมาแล้วหลายราย จนได้รับโอกาสเซ็นสัญญาชก ณ ประเทศญี่ปุ่น
เธอมีจุดมุ่งหมายในการชกมวยอย่างแน่วแน่ คือเพื่อหาเงินสำหรับผ่าตัดแปลงเพศ ซึ่งในปีเดียวกันกับที่เธอได้แชมป์ เธอก็สามารถทำความฝันของเธอได้สำเร็จ จนเรื่องราวของเธอถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง บิวตี้ฟูล บ๊อกเซอร์ กวาดรางวัลและรายได้มากมายจากต่างประเทศ
ปัจจุบันตุ้มประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการมานานหลายปีแล้วแต่ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการ โดยการเปิดค่ายมวยไทยของตัวเองชื่อว่า “น้องตุ้มมวยไทยยิม” ที่บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อสอนมวยไทยให้แก่ผู้ที่สนใจแบบไม่จำกัดเพศและอายุ
ในวาระแห่งชาติ#สุขุมวิทซอย11 ราชินีสังเวียนอย่าง “ตุ้ม” ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์นี้ว่า “ฉันละอยากจะฝากแม่ไม้มวยไทยให้กลับไปฟิลิปปินส์ แล้วจะรู้ว่ากะเทยไทยของแท้ ที่นี่ประเทศไทย กะเทยไทย มวยไทย ลูกๆ เข้าค่ายแม่ด่วนๆ แม่จะสอนมวยให้”
เพราะ หลังไทย – ปินส์แอบหยิกหลัง วางมวยกันมาทุกการประกวดนางงาม ล่าสุด พี่กะเทยไทยหยิบวัฒนธรรม “มวยไทย” มายกระดับซอฟต์ พาวเวอร์ไทยไปอีกขั้นอีกครั้ง เมื่อมีพี่กะเทยไทย 2 คน ถูกกลุ่มพี่กะเทยฟิลิปินส์กว่า 20 คน รุมทำร้าย และขโมยทรัพย์สิน พร้อมนำคลิปเหตุการณ์ ไปเผยแพร่ต่อในเชิงเหยียดหยาม
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทีมพี่กะเทยไทย ก็อยู่เฉยไม่ได้ เกิดการรวมตัวกันแบบไม่ได้นัดหมาย หน้าโรงแรมถิ่นกะเทยปินส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีเข้าดูแล และพยายามส่งตัวพี่กะเทยฟิลิปปินส์ ขึ้นรถไปโรงพักทีละ 2-3 คน พี่กะเทยไทยจึงอาศัยจังหวะนี้เข้าไปป้อนยำใหญ่ใส่สาระพัด จนกำเนิดปาฏิหารย์นางปีน นางลอย นางบินข้ามหัวหมดไม่สนยศ สนตำแหน่ง เรียกได้ว่าจะหมัดจะมวย กระบวย จะเหล็ก งัดออกมาเอาคืนกันแบบพอประมาณ (ประมาณว่าเจ็บหนักแน่)
เรียกได้ว่าพี่สาวกะเทยฟิลิปปินส์พลาด มาล้อเล่นกับระบบพี่สาวกะเทยไทยที่ผ่านการฝึกรด. เขาชนไก่ และการเกณฑ์ทหารกันมาเกือบทุกคน แถมยังพร้อมใจทำงานกันเป็นระบบ ยิ่งกว่าประกวดเชียร์ลีดเดอร์งานกีฬาสี เพราะแค่คลิปสั้นๆ ก็ปาไปล้านเรื่องราว คนหนึ่งเจรจาหลีกทาง หรือจะเรียกว่า ส่งสัญญาณขยิบตาเปิดศึก คนหนึ่งหยุมผม คนหนึ่งชิงพาสปอร์ตมาส่งต่อให้อีกคนหนึ่งฉีกพาสปอร์ต ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจเป็นบทเรียนให้ชาวต่างชาติมาเฟียที่ทำร้ายคนไทยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์นี้ มีหลายฝ่ายออกมาให้กำลังใจและเกาะติดสถานการณ์ของพี่กะเทยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่ว่าจะปิงลี่-พี่กะเทยมือตบอันดับหนึ่งของชาวเน็ต ฟลุ๊คกะล่อนที่มาบันทึกภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้และชาวเน็ตอีกนับไม่ถ้วนที่คอยช่วยกันรายงานสถานการณ์ จน#สุขุมวิทซอย11 ติดเทรนด์ต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมง กลายเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องบันทึกลงหน้าประวัติศาสตร์ไทย วันกะเทยผ่านศึก
หากในอดีต เคยมีกลุ่มแฟนคลับศิลปินเกาหลี ขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองมาแล้ว ตอนนี้ กลุ่มพี่กะเทยก็อาจจะกำลังสร้างการขับเคลื่อน วงการธุรกิจมืดย่านซอยสีลม เพราะ ตั้งแต่เกิดเหตุ ก็มีนักสืบชาวเน็ต ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงการเป็นอยู่ของพี่กะเทยฟิลิปปินส์กลุ่มนี้ ที่อยู่อาศัยมานานนับปี ทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนในพื้นที่ แท้จริงแล้ว พวกเธอมาทำอะไรที่ไทยกันแน่ หากมาท่องเที่ยวทำไมถึงสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้นานนับปีได้ หรือถ้ามาทำงาน พวกเธอมาทำงานแบบถูกกฏหมายหรือไม่
คิดถึงไทย คิดถึงพี่กะเทย
แม้พี่จะกู้ชาติให้ไทยขนาดนี้ แต่ก็มีบางคนมองว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง พี่กะเทยไทยยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากตำรวจไทยเพิ่งเคลื่อน ไหว เมื่อฟิลิปปินส์โดนปิดล้อมโรงแรม แต่กลับนิ่งเฉยตอนที่พี่กะเทยไทย 4 คนโดนรุม ทั้งยังพยายามใส่กุญแจมือพี่กะเทยไทย เพื่อควบคุมสถานการณ์ (?) ทำให้พี่กะเทยต้องรวมใจกันออกมาสู้เพื่อกลุ่มของตัวเองดังที่เคยทำมา
วาระแห่งชาตินี้ จะสิ้นสุดที่ตรงไหนหรือจะบานปลายไปถึงขั้นไหน ก็คงต้องตามเอาใจช่วยพี่กะเทยไทยทุกคนกันต่อไป