ที่ผ่านมาเราได้เห็นความพยายามในการ “ทั้งผลัก ทั้งดัน” ให้แฟชั่นชุดไทยออกไปสู่ความแมสในระดับสากลมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่าที่ผ่านมา การออกแบบดีไซน์มันยังไม่ได้เหมาะกับการใส่เที่ยว ใส่ในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเนื้อผ้า หรือลวดลายที่พยายามยัดความเป็นไทยใส่เข้ามาจนเกินงาม
จริงๆ การจะส่งเสริมแฟชั่นไทยให้เป็น Soft Power นั้น คำถามง่ายๆ ก็คือ สิ่งเหล่านั้นมันมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนอยากสวมใส่ อยากเข้าหาหรือเปล่า
อย่างแคมเปญนี้ที่ทาง สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (Sacit) ได้ร่วมกับ ปราง-กัญญ์ณรัณ ถ่ายทอดแฟชั่นผ้าไทยออกมา เป็นแนวสตรีตแฟชั่นเดินเที่ยวญี่ปุ่น ดูเป็นลุคที่เข้าถึงได้ สามารถสวมใส่ได้จริง โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่านและทำได้ดีกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา
หลังจากภาพเลดี้ปรางสวมกางเกงมวย เดินเฉิดฉายกลางชิบูย่าถูกโปรโมตออกมา ก็มีคอมเมนต์ในโซเชียลตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่ต้องการดราม่าหรือโยงเเง่ลบเลดี้ปราง เเต่พอดีว่าเห็นข่าวขององค์การศิลปะหัตกรรม น่าจะจ้างเลดี้ปรางโปรโมท เพื่อที่จะเป็น Soft Power อวดสายตาชาวต่างชาติ แต่โปรเจคเเบบนี้เราเห็นด้วย เพื่อที่จะเลือกซื้อเลือกใช้ผ้าไทยกันได้มากขึ้น เเต่การที่เอาชุดไทยกับกางเกงมวยไปใส่ยืนถ่ายรูปในโตเกียวญี่ปุ่น
มันจะสร้างฟีดเเบคที่ดี คนทั่วไปจะหาซื้อชุดมาใส่ได้จริง ๆ หรือเปล่า ภาพที่มันออกมาถ้าให้เลดี้ปรางเอาผ้าไหมไทยมาใส่ในชึวิตประจำวันมิกซ์กับเสื้อผ้าชุดอื่น ๆ มันจะดีกว่า
เพราะใส่ชุดไทยเเล้วไปยืนอยู่ท่ามกลางโตเกียวมันจะทำให้คนญี่ปุ่นว้าว!! ฉันอยากซื้อชุดไทยบ้างจัง หรือในทางกลับกัน ถ้ามีคนญี่ปุ่นมาใส่ชุดกิโมโนที่วัดโพธิ์เราจะอยากซื้อชุดกิโมโนไหม
อยากให้ส่งเสริม Soft Power เเบบเก๋ๆ ได้”
นั่นแหละฮะ ท่านผู้ชม เรื่องรสนิยมทางแฟชั่น มันก็ย่อมแตกต่างกันได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
แล้วคุณหล่ะ เห็นรูปแล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากจะแต่งชุดไทยไปเที่ยวไหนบ้าง
และจะให้คะแนนการโปรโมตแฟชั่นผ้าไทยเซ็ตนี้สักกี่คะแนนดี?
#TheAttraction #SoftPower #ซอฟต์พาวเวอร์