Skip links

“อู่เหลียงเย่” สานตำนานเมรัยพันปี เปิดวัฒนธรรมร่ำสุรา เชื่อมสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย-จีน

ในซีรีส์จีน เรามักเห็นภาพการดื่มสุรา “ไป๋จิ่ว” หรือสุราขาวที่เป็นเอกลักษณ์แห่งเมืองจีน แม้ในปัจจุบันจะไม่มีการดื่มจากไหแบบดั้งเดิมแล้ว แต่ประเพณีการดื่มไป๋จิ่วยังคงสืบทอดต่อมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตการรับประทานอาหารแบบโต๊ะกลมของคนจีน ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลอง การต้อนรับแขก หรือพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ไป๋จิ่วได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการสร้างความสัมพันธ์อันดี และเมื่อเปิดไป๋จิ่วคุณภาพสูง โดยเฉพาะในจำนวนขวดที่เท่ากับจำนวนผู้ร่วมโต๊ะ ยิ่งสะท้อนถึงการแสดงความเคารพและความใส่ใจต่อกันอย่างลึกซึ้ง

ในธรรมเนียมการดื่ม ฝั่งเจ้าภาพจะเริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับสามครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้ง ทุกคนบนโต๊ะจะต้องยกจอกดื่มจนหมดเพื่อแสดงความเคารพต่อเจ้าภาพ จากนั้น เจ้าภาพจะเดินชนแก้วทักทายแขกแต่ละคนจนครบทุกคนที่ร่วมโต๊ะ โดยปากแก้วของผู้อาวุโสจะต้องอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเสมอ หลังจากพิธีการนี้ หากเจ้าภาพหรือแขกคนใดต้องการสนทนาต่อก็สามารถชนแก้วทักทายเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไป๋จิ่วส่วนใหญ่มีดีกรีค่อนข้างสูงอยู่ระหว่าง 35-52 ดีกรี การดื่มจึงมักจำกัดปริมาณในจอกเล็ก ๆ และเน้นความอบอุ่นของการพูดคุยบนโต๊ะอาหารเป็นสำคัญ

ด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นนี้ รัฐบาลจีนจึงเข้ามาจับมือกับโรงผลิตสุราท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ไป๋จิ่วไปสู่ระดับโลก นำไป๋จิ่วขึ้นโต๊ะประชุมทางการเมืองระหว่างประเทศหลากหลายครั้ง พร้อมส่งต่อวัฒนธรรมการดื่มจีนให้ไหลผ่านไปหาผู้คน ซึ่งอู่เหลียงเย่ – หนึ่งในแบรนด์ไป๋จิ่วระดับพรีเมียมที่อยู่คู่กับชาวจีนมานานกว่า 700 ปีก็เป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญในครั้งนี้

อู่เหลียงเย่ มีความหมายตรงตัวว่า ธัญพืช 5 ชนิด ซึ่งได้แก่ ข้าว, ข้าวฟ่าง, ข้าวสาลี, ข้าวโพด และข้าวเหนียวที่ผ่านกระบวนการหมักและกลั่นแบบดั้งเดิม จนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์  โดยจะถูกผลิตขึ้น ณ เมืองอี๋ปิน ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสุราของจีนที่มีกระบวนการผลิตไป๋จิ่วมานานกว่าพันปี จนได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ว่าเป็นแหล่งผลิตที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ควรค่าแก่การส่งต่อวัฒนธรรม 

ในปี 2023 ที่ผ่านมา อู่เหลียงเย่ ติดอันดับเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกหลายครั้ง อาทิ 500 Brand Finance Global 2023, Global Top 50 Most Valuable Spirits Brands 2023, China’s 500 Most Valuable Brands 2023 และ 500 แบรนด์ยอดเยี่ยมของเอเชียจาก World Brand Lab ติดต่อกันเป็นปีที่ 19 และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการประเมินสูงสุดในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้อู่เหลียงเย่กลายเป็นหนึ่งในไป๋จิ่วที่มีมูลค่าแบรนด์อยู่หัวตารางมาทุกปี

แต่อย่างไรก็ตาม อู่เหลียงเย่ไม่ได้มุ่งรุกแค่ตลาดเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังรุกตลาดวัฒนธรรมส่งต่อวัฒนธรรมการดื่มของจีนไปพร้อมกัน ด้วยการผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับความเป็นอู่เหลียงเย่อย่างกลมกลืน ทั้งเข้าร่วมการประชุม APEC CEO Summit, เข้าร่วมการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ไทม์สแควร์, ลงนามร่วมกับ Michelin Guide ที่กรุงปารีส พร้อมพัฒนาค็อกเทลสูตรพิเศษ “Wugroni” ซึ่งใช้ไป๋จิ่ว ในค็อกเทลสูตร Negroni เดินทางไปหานักดื่มถึงที่กว่า 700 บาร์ในช่วง Negroni Week 2024 นี้ รวมถึงยังจัดกิจกรรม “Harmony Global Tour” เพื่อเชื่อมโลกการดื่มสุราของตะวันออกและตะวันตกให้เป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนี้ อู่เหลียงเย่ยังได้เปิดตัวร้านอาหาร Wuliangye Dining ในโตเกียว ฮ่องกง และดึสเซลดอร์ฟ เสิร์ฟอาหารเสฉวนและไป๋จิ่วกลิ่นหอม เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมอาหารจีนแบบดั้งเดิมให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

ล่าสุด แกแล็คซี่ กรุ๊ป พาอู่เหลียงเย่เข้ามาสานสัมพันธ์กับนักดื่มไทย ด้วยการจัดงานเปิดตัวฉลองการมาถึงครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ธีม “Baijiu of Harmony: From China to Thailand” ประกาศศักดาให้นักดื่มชาวไทยได้เริ่มต้นทำความรู้จักไป๋จิ่วอีกหนึ่งตัวที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร พร้อมจัดนิทรรศการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของอู่เหลียงเย่ ตามด้วยโชว์สุดยิ่งใหญ่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีนอย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยการประมูลอู่เหลียงเย่เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี 

เพราะในปัจจุบัน ไทย ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ทั้งในแง่การท่องเที่ยวและการลงทุน ทำให้เหมาะแก่การนำเข้าอู่เหลียงเย่ ซึ่งเป็นไป๋จิ่วระดับไฮเอนด์ได้เป็นอย่างดี พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนให้เหนียวแน่นไปอีกขั้น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้เห็นว่าหากเครื่องดื่มไป๋จิ่วท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ สามารถช่วยส่งต่อวัฒนธรรมและไป๋จิ่วให้ไกลไปทั่วโลกได้