Skip links

The Attraction เผยผลสำรวจ คนไทย 70% เข้าใจ SOFT POWER แต่ “งงมากแม่” กับนโยบายของ THACCA

จากคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “Soft Power” คืออะไรกันแน่? เอาแค่นิยามภาษาไทยที่มีคนมาอธิบายความหมายไว้มากมาย  ทั้ง “อำนาจละมุน”, “พลังเย็น”, “พลังนุ่มนิ่ม”, “มานานุภาพ”, “ภูมิพลังวัฒนธรรม” ฯลฯ ก็ทำเอาหลายคนที่เคยคิดว่าเข้าใจความหมายของคำนี้ กลายเป็นสับสนกับสิ่งอยู่ในหัวว่าสิ่งที่คิดมันยังถูกต้องอยู่มั้ย

ถ้าประชาชนชาวเน็ตทั่วไปอย่างเราๆ จะทั้งงงทั้งหลงทาง ไม่ต่างจาก “คนตาบอดคลำช้าง” มันก็พอเข้าใจได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนจากฝั่งสื่อมวลชน สื่อออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์ หรือแม้กระทั่งภาครัฐเอง ก็ดันมายืนคลำช้างตัวเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยนี่สิ ประเด็นนี้เลยกลายเป็นความสับสนระดับประเทศ ที่เราควรหันมาโฟกัสกันอย่างจริงจังได้แล้ว

 

ในฐานะที่ The Attraction (ดิ แอทแทรคชั่น) ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการเล่าถึงมุมมองสำคัญทางด้านอาหาร วัฒนธรรม ความบันเทิง เศรษฐกิจ การเมือง และอื่นๆ โดยตั้งใจที่จะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยสะท้อนภาพของซอฟต์พาวเวอร์จากภาคประชาชน เราจึงได้จัดทำ “แบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไทยที่มีต่อซอฟต์พาวเวอร์” กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ติดตามในเพจและประชาชนทั่วไปในโลกออนไลน์ โดยคาดหวังว่าข้อมูลและสถิติที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและองค์กรต่างๆ

จากแบบสอบถามพบว่า

• ประชาชนกว่า 70% ให้คะแนนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Soft Power ของตัวเองในระดับสูง และมองว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นเรื่องสำคัญและอยู่รอบตัว

• ท่ามกลางคำนิยาม Soft Power ที่ถูกแปลเป็นภาษาไทย คำที่คนคิดว่าเหมาะสมที่สุด 3 อันดับแรก คือ “ภูมิพลังวัฒนธรรม” “พลังโน้มนำ” และ “พลังเย็น”

• แม้ว่าคนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จะเข้าใจในเรื่อง Soft Power แต่เมื่อเจาะถึงโนบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) ที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เสียงของประชาชนเกินกว่า 60% เทไปในฝั่งเดียวกันคือ ยังไม่ค่อยเข้าใจและ “งงมากแม่”

• ที่สำคัญองค์กรที่ถูกตั้งมาให้เป็นหัวเรือในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของชาติอย่าง THACCA นั้น กลับไม่ติดโผ 5 อันดับแรก ที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้ยังพบผลสำรวจที่น่าสนใจอีกมากมาย ดังนี้

บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในการสร้างและผลักดัน Soft Power

เป็นไปตามคาดอันดับที่ 1 คือ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็กระตุ้นพลัง Soft Power ของไทยไปหมด ล่าสุดสวมชุดแบรนด์ไทย Asava รับพระราชทานเครื่องราชฯ จาก คิงชาร์ลส์ที่ 3 สวยสง่าดุจเจ้าหญิงต่อสายตานานาชาติ อันดับที่ 2 คือตกเป็นของพี่ “บัวขาว” ที่ขยันสร้างคอนเทนต์ ให้สาวๆ ต่างชาติได้กรี๊ดและเข้ามาฝึกมวยไทยอยู่ตลอดเป็น Soft Power ฝ่ายชายที่น่าสนใจและควรได้รับการสนับสนุนอย่างยิ่ง อันดับที่ 3  คือ “จาพนม” อันดับ 4 “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และอันดับที่ 5 “เบลล่า ราณี”

5 อันดับที่คนไทยนึกถึงมากที่สุดเมื่อพูดถึงเรื่อง Soft Power

ครองแชมป์อันดับที่ 1 คือ “ข้าวเหนียวมะม่วง” น่าจะเป็นผลบุญที่น้องมิลลิได้นำขึ้นไปโชว์บนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลก อันดับที่ 2 คือ “ต้มยำกุ้ง” ตราตรึงอยู่ในใจคนไทยและต่างชาติมาอย่างยาวนาน อันดับที่ 3 คือ มวยไทย อันดับที่ 4 กางเกงช้าง และอันดับที่ 5 ชาไทย

อะไรที่ชาวเน็ตอยากให้ผลักดันเป็น Soft Power ของเมืองไทย

อันดับที่ 1  คือ“ด้านงานสร้างสรรค์ งานศิลปะ” ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ เพราะประเทศไทยมีวัฒนธรรมและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ที่ต่างชาติชื่นชอบ และล่าสุดยูเนสโก ยังประกาศว่า “เชียงราย” เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ ประจำปี 2566 และยังมีจังหวัดอื่นๆ ที่น่าผลักดันเช่นกัน อันดับที่ 2 คือ ภาพยนตร์ไทย อันดับที่ 3 คือ เฟสติวัล อันดับที่ 4 อุตสาหกรรมดนตรี อันดับที่ 5 สุราก้าวหน้า 

ปัญหาและอุปสรรคของการผลักดัน Soft Power

อันดับที่ 1 คือ “นโยบายภาครัฐ”  ที่บางครั้งก็ดูงงๆ ว่าจะไปในทิศทางไหน หรือแค่ทำเป็นกระแสเท่านั้น อันดับที่ 2 คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะนอกจากการให้คำนิยามจะไปกันคนละทิศละทางแล้ว ภาษาที่ใช้สื่อสารก็ทำให้คนหลายกลุ่มเข้าถึงได้ยาก  อันดับที่ 3 คือ งบประมาณ ที่จะสนับสนุน  อันดับที่ 4 การประชาสัมพันธ์ อันดับที่ 5 การต่อยอด ที่ยังถือว่าน้อยมาก

องค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Soft Power

THACCA ไม่ติด TOP 5 ที่คนไทยนึกถึง อาจเพราะเพิ่งตั้งองค์กรมาใหม่ ประชาชนยังมองไม่เห็นความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ ทำให้ อันดับที่ 1 ยังเป็น “กระทรวงวัฒนธรรม” ที่มักจะยึดพื้นที่สื่อเสมอเมื่อมีเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อันดับที่ 2  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อันดับที่ 3 CEA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อันดับที่ 4 TCDC ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบประเทศไทย และอันดับที่ 5 Content Thailand กองภาพยนตร์ และวีดิทัศน์

แบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Soft Power ของประเทศ

ภาคเอกชนถือเป็นอีกหนึ่งแกนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของชาติ ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะยังไม่ได้มีการวางแผนเพื่อสร้างความร่วมมือในระดับนโยบายในหลายภาคส่วน แต่สิ่งที่ภาคเอกชนดำเนินแผนการตลาดในช่วงที่ผ่านมา ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่ระดับโลก โดยผลสำรวจแบรนด์ 5 อันดับแรกที่ประชาชนนึกถึงก็คือ อันดับที่ 1 คือ “KING POWER” อันดับที่ 2  “สิงห์” อันดับที่ 3 “ช้าง”  อันดับที่ 4 “PTT” อันดับที่ 5 “กระทิงแดง” 

“The Attraction หวังว่าผลการสำรวจนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยให้ไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามแนวคิดของรัฐบาลที่ตั้งไว้ ถึงแม้ประชาชนบ้างกลุ่มยังเข้าไม่ถึง แต่ก็เต็มใจช่วยผลักดัน เพราะเชื่อว่าประเทศไทยมีต้นทุนที่ดี สามารถต่อยอดได้มากมาย แต่ก็ยังมีบางแนวคิดที่ต้องการให้รัฐบาลช่วย “ให้ทุนสนับสนุน” หรือ “ช่วยเป็นตัวกลางในการประสานงาน” ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว”