เวลาดูซีรีส์ที่พัวพันกับธุรกิจพันล้าน เรามักจะร้องว้าวไปกับการลงทุนในโปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์สุดล้ำค่าที่อยากจะรวบรวมคอนโด ห้าง ออฟฟิศไว้ในที่เดียวกัน ดูแล้วล้ำหน้านำสมัยเกินจริงกว่าจะเกิดขึ้นในไทย แต่นั่นจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในซีรีส์อีกต่อไป เพราะ โปรเจคต์แบบนั้นกำลังจะเกิดขึ้นในไทย
ONE Bangkok เป็นอภิมหา ‘มิกซ์ยูส (Mixed-Use)’ โปรเจ็กต์ มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ตั้งอยู่ใจกลางแยกพระราม 4 – ถนนวิทยุ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ที่จะรวมศูนย์การค้า 3 แห่ง โรงแรม-คอนโด 3 แห่ง ออฟฟิศอีก 5 แห่ง และพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ-วัฒนธรรม พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวไว้ในที่เดียวกัน ใช้เวลาแค่ 15 นาที ก็สามารถเก็บครบทุกกิจกรรมได้อย่างง่าย ๆ ตามหลัก 15-Minute City ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่า One Bangkok เป็นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสที่พยายามตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้การพัฒนาโปรเจ็กต์อาจแอบซ่อนไอเท็มพิเศษที่จะช่วยตีบวกคะแนน Soft Power ไทยได้ไม่น้อย ตาม “Global Soft Power Index 2024” โดย Brand Finance ในปี 2024 ไทย อยู่อันดับที่ 40 ด้วยคะแนน 44.8 โดยด้านที่โดดเด่นเป็นพิเศษก็คงจะหนีไม่พ้น ด้านธุรกิจและการค้า (Business & Trade) ที่ได้คะแนนไปเพียง 4.9, ด้านวัฒนธรรมและประเพณี (Cultural & Heritage) ที่ได้คะแนนไปเพียง 4.8 และด้านอนาคตยั่งยืน (Sustainable Future) ที่ได้คะแนนไปเพียง 3.6 ซึ่งยังนับได้ว่าน้อย หากเทียบกับอีก 39 ประเทศก่อนหน้า
ลงทุน ลงใจ ณ กลางเมือง
ผลงานก่อนหน้านี้ของ Frasers Property นับได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย ตั้งแต่ปี 2016 ที่เริ่มเดินหน้าโปรเจ็กต์ FYI Center, สามย่านมิตรทาวน์, เดอะ พาร์ค, ศูนย์สิริกิติ์ฯ จนกระทั่งสีลมเอจล้วนเป็นมิกซ์ยูสใจกลาง CBD ที่มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในแต่ละวันไม่น้อย
ดังนั้น หากนับในแง่ความน่าดึงดูดในการลงทุนทำธุรกิจในพื้นที่พระราม 4 – ถนนวิทยุ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้คะแนนเต็มอยู่แล้ว โดยเดิมทีเดิมที พื้นที่บริเวณนี้ คือ สวนลุมไนท์ พลาซ่าและโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินฯ ก่อนจะถูกประมูลเปลี่ยนถ่ายโอนมาให้ TCC ASSETS และ Frasers Property ร่วมกันพัฒนา One Bangkok ขึ้นมา
และเมื่อ One Bangkok ถูกพัฒนาขึ้นมา ความน่าลงทุนในพื้นที่นี้ก็ยิ่งทวีคูณ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะออฟฟิศ โรงแรม คอนโด ศูนย์การค้าและพื้นที่สีเขียว ทำให้คาดว่าจะมีผู้คนมากกว่า 230,000 / วัน โดยเฉพาะในส่วนของอาคารออฟฟิศ มีบริษัท multi-national ไม่น้อยกว่า 500 บริษัท ทำให้มีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าออกกว่า 50,000 คน/วัน หรือจะในส่วนของ
ทั้งยังเชื่อมต่อกับ MRT ลุมพินี ทำให้เดินทางได้ด้วย MRT สายสีน้ำเงินที่วนเป็นวงกลมง่ายต่อการเดินทาง พร้อมทั้งยังมีถนนตัดเข้าทางด่วนลุมพินีใหม่ พร้อมที่จอดรถกว่า 12,000 คัน แก้ pain point ชาวออฟฟิศกลางกรุงที่ต้องต่อสู้กับการเดินทางได้เป็นอย่างดี
อนาคตยั่งยืน คืนชีวิตให้คน-เมือง
ใจกลางของกลางใจ One Bangkok ยังมีพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งอีกกว่า 50 ไร่ หรือราว10,000 ตร.ม. หากลากเส้นเชื่อมต่อจากสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ จะทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 700 ไร่ ยกระดับคุณภาพสีเขียวให้ทั้งคนทั้งเมืองได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เปิดพื้นที่ให้ผู้คนบอกลาความเครียดและมาแวะพักใจด้วยกันกลางกรุง
อีกทั้ง One Bangkok ยังเป็นโปรเจ็กต์แรกที่ได้รับรางวัล LEED for Neighborhood Development (LEED-ND) ระดับ Platinum รองรับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังมีเป้าหมายจะกลายเป็นโปรเจ็กต์ Net Zero ในปี 2050 ทำให้บริษัทที่มีออฟฟิศอยู่ใน One Bangkok สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเป็นออฟฟิศสีเขียว เพิ่มความน่าลงทุนให้ตลาดโลกหันมาสนใจ เพราะในปัจจุบัน เริ่มมีการพูดถึงภาษีคาร์บอนกันจริงจังมากขึ้น การมีออฟฟิศปลอดคาร์บอนจึงน่าจะกลายเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากในอนาคต
เสพศิลป์ อินอาร์ต
ศิลปะ เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเยียวยาชีวิตและจิตใจได้เป็นดี แถมยังช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้โลดแล่น เกิดไอเดียใหม่ ๆ พร้อมทั้งเพิ่มความน่าอยู่ให้พื้นที่นั้นมีชีวิตชีวา ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ศิลปะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ One Bangkok ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยบริเวณพื้นที่สีเขียวที่เปิดโล่งจะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินระดับโลกที่จะคอยหมุนเวียนมาจัดแสดงที่นี้
ปังตั้งแต่เปิด
ณ ตอนนี้นั้น ในส่วนของอาคารออฟฟิศของ One Bangkoko เปิดให้บริษัทชั้นนำย้ายเข้ามาทำงานกันเป็นบางส่วนแล้ว และกำลังจะเปิดตัว Parade และ The Storeys – 2 ศูนย์การค้าแรกของโปรเจ็กต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคม 2024 นี้
และหากใครจำความสำเร็จของพิธีเปิดโอลิมปิก ปารีส 2024 ได้ ความอลังการนั้นอาจจะกลับมาอีกครั้ง เพราะ ในวันเปิดตัวครั้งนี้จะใช้ทีมโปรดิวเซอร์ AUDITOIRE ซึ่งเป็นทีมเดียวกันกับพิธีเปิดโอลิมปิก ปารีส 2024 ภายใต้แนวคิด The Heart of Bangkok เมืองกลางใจที่ใช้ใจสร้าง
พร้อมด้วยการแสดงบนแบบ 360 องศา โดย Calum Scott (เจ้าของเพลงYou Are The Reason, Dancing On My Own) ร่วมด้วย Loren Allred (เจ้าของเสียงร้องเพลง Never Enough Ost.The Greatest Showman) และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่จะมาเปิดประสบการณ์ใจกลางเมือง ต่อด้วยคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินไทยอีกมากมายที่จะมาร่วมสานต่อประสบการณ์นี้ให้เต็มอิ่ม อาทิ 4EVE , โอ๊ต ปราโมทย์, Palmy, Slot Machine, Ally, Tilly Birds, Dice, Violette Wautier, ต้าห์อู๋, LYKN เป็นต้น
มิกซ์ยูส บูส Soft Power (?)
ในปัจจุบัน มิกซ์ยูส กลายเป็นโปรเจ็กต์ที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมากในไทย แม้ในแต่ละโปรเจ็กต์นั้นจะต้องทุ่มงบและแรงในการลงทุนอย่างมหาศาล แต่ผลตอบแทนที่จะได้นั้นนับว่าคุ้มค่า หากได้รับการวางผังและวางแผนเมืองที่ดีจะยิ่งช่วยเพิ่มคุณูปการให้แก่ประเทศได้เป็นอย่างมาก ทั้งในแง่เศรษฐกิจที่จะเพิ่มมูลค่าพื้นที่โดยรอบ ดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวมายังไทย พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง ตอบรับเทรนด์พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
การเข้ามาของ One Bangkok จึงอาจช่วยเพิ่มคะแนน Global Soft Power Index ในด้านธุรกิจและการค้าได้ แม้ด้านนี้จะแข็งแรงอยู่แล้ว แต่การมีมิกซ์ยูสระดับแสนล้านน่าจะช่วยเพิ่มคะแนนความน่าลงทุนแถว CBD ของกทม.ได้ไม่น้อย รวมถึงคะแนนในด้านอนาคตยั่งยืนและศิลปะที่ One Bangkok อยากกสนับสนุนให้กทม.มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นด้วยงานศิลป์ เช่นนั้นแล้ว One Bangkok จึงอาจเป็นต้นแบบที่พอจะเป็นไปได้ในการพัฒนาเมืองและประเทศต่อไปในอนาคต หากโปรเจ็กต์นี้ประสบความสำเร็จและมีมิกซ์ยูสในลักษณะนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อันดับและคะแนน Global Soft Power Index ไทยน่าจะสูงขึ้นได้ดีทีเดียว