Skip links

Love Scout (2025) เจาะซีรีส์สูตรสำเร็จ ชูโรง Soft Power สไตล์ KOCCA ที่ยังคงอร่อยอยู่เสมอ

ในวันที่ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีแข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากการปูทางด้วยการสอดแทรกสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และความเป็นเกาหลีอยู่ตามซีรีส์เกาหลีดัง ตั้งแต่แดจังกึม (2003) ไปจนถึง Itaewon Class (2020), Hometown Cha Cha Cha และอื่น ๆ อีกมากมายที่ดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกต่างอยากลองสัมผัสประสบการณ์ความเป็นเกาหลีกันแทบทุกอณู จนอาจจะไม่จำเป็นต้องสอดแทรกเรื่องราวเหล่านี้ลงในซีรีส์อีกต่อไป พาให้พล็อตเรื่องซีรีส์เกาหลีไปไกลเกินกว่าจะคาดคิด ทั้งขับเน้นประเด็นสังคมต่าง ๆ เข้มข้นมากขึ้น 

ทว่า ในบางครั้งบางครา มันก็มีบ้างที่คิดถึงรสชาติเดิมของซีรีส์เกาหลีที่นำเสนอวิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นซอฟต์ พาวเวอร์เกาหลี จนกระทั่งการมาถึงของ Love Scout ที่กลับมาโดดเด่นอีกครั้งด้วยรสชาติดั้งเดิมสุดกลมกล่อม ชูซอฟต์ พาวเวอร์ของเกาหลีอีกครั้ง ทั้งเรื่องรักโรแมนติก การเกาะติดอาชีพที่น่าสนใจ ไปจนถึงขับเคลื่อนสังคมประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ ท่ามกลางสมรภูมิซีรีส์พล็อตแปลกแหวกแนว

สูตรสำเร็จ ชูโรง Soft Power สไตล์ KOCCA

Love Scout (2025) ซีรีส์รักวัยทำงาน สไตล์รอม-คอมธงเขียวที่จริงใจ เล่าเรื่องราวของ คังจียุน (รับบทโดย ฮันจีมิน) ซีอีโอสาวของบริษัทจัดหาบุคลากรระดับแนวหน้า ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับงาน จน Work ไร้ บาลานซ์ ทำให้ ยูอึนโฮ (รับบทโดย อีจุนฮยอก) คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องเข้ามาเป็นเลขาคนใหม่คอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ 

ตลอดทั้งเรื่อง จะเห็นได้ว่า ยังคงทำได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ ทั้งการเสิร์ฟฉากเลิฟซีนกลาง ‘จตุรัสควังฮวามุน’ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใจกลางกรุงโซล ให้กลายเป็นจุดนัดพบรักของพระ-นางทั้งสองอยู่คนละฟากฝั่งถนนก็จะเดินมาหากันในที่สุด

รวมไปถึงการเสิร์ฟฉากอาหารเกาหลีสุดน่ากินแบบเนียน ๆ ผ่านการโชว์สกิลทำอาหารสุดอร่อยของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือจะตอนที่พระ-นางทั้งคู่ไปนั่งกินข้าวในร้านเตนท์แดง รวมไปถึงตอนที่ชาวทีมหนึ่งชวนกันไปกินอาหารกลางวัน ส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะการสนับสนุนจากองค์กรหลักองค์กรเดิมอย่าง Korea Creative Content Agency (KOCCA) ทำให้ได้กลิ่นอายสูตรสำเร็จซีรีส์เกาหลีที่โชว์ความเป็นเกาหลีผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารในยุคที่กำลังผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ ให้โดดเด่นกันตั้งแต่ต้นปี

นักล่าค่าหัว ตามตัวมาทำงาน

นอกจาก Love Scout จะยังคงสไตล์ซีรีส์เกาหลีฉบับดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม อีกหนึ่งจุดเด่นของซีรีส์เกาหลี คือ การเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานของอาชีพที่น่าสนใจ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ซีรีส์พาให้ผู้ชมได้ไปทำความรู้จักกับ อาชีพนักล่าค่าหัว หรือ เฮดฮันเตอร์ (Headhunter) ที่ไม่ได้หมายถึงการออกไปตามล่าหาโจรที่ไหน แต่เป็นการออกตามล่าหาบุคลากรคุณภาพให้แก่บริษัทต่าง ๆ  

ในซีรีส์ จะได้เห็นการทำงานของบริษัทพีเพิลซ์ (Peoplez) ตั้งแต่ขั้นตอนการประชุมวางแผน เพื่อหาบุคคลที่มีคุณสมบัติตามที่บริษัทต่าง ๆ ต้องการมากที่สุด ไปจนถึงการลงพื้นที่ไปเจรจาต่อรองกับผู้สมัครแบบตัวต่อตัว ทำให้ไม่ว่าผู้สมัครจะอยู่ในมุมไหนในเกาหลี หรือจะมีเงื่อนไขในการทำงานยากขนาดไหน ก็จะตามตัวมาทำงานให้ได้ รวมถึงจะได้เห็นการพลิกแพลงแผนค้นหาผู้สมัครสายอื่นที่ไม่คาดคิดว่าจะมาทำตำแหน่งนั้น ๆ ได้ พาให้ผู้ชมเห็นว่าอาชีพจัดหาบุคลากรก็น่าสนุกอยู่ไม่น้อย 

เลี้ยงคนเดียวก็เฟี้ยวได้

หากใครติดตามวงการซีรีส์เกาหลี ก็จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่แล้วจะฉายภาพให้เห็นถึงความยากลำบากของการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในสังคมเกาหลี ผ่านซีรีส์ต่าง ๆ อาทิ When the Camellia Blooms (2019) / Was It Love? (2020) / The Good Bad Mother (2023) และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเล่าถึงการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวในสังคมเกาหลี ซึ่ง Love Scout 

ยูอึนโฮ (รับบทโดย อีจุนฮยอก) คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกสาวสุดน่ารักที่ชื่อ พยอล เพียงคนเดียว เนื่องจาก แม่ของพยอลมีภาวะเครียดหลังคลอด ซึ่งในตอนแรกนั้น คุณพ่อทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไป จนละเลยการใช้เวลากับลูก จนในท้ายที่สุดพยอลเริ่มป่วยใจ เป็นเหตุให้คุณพ่อลาพักงานไปเลี้ยงลูก แม้จะกำลังได้รับหน้าที่ในงานสำคัญ แต่เขาก็เลือกที่จะกลายเป็นคุณพ่อดีเด่นของลูกสาว

ทว่า พอกลับมาทำงานอีกครั้ง เขาก็ต้องพบเจอกับความยากลำบากในการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว โดยใช้การลาไปเลี้ยงลูกเป็นข้ออ้างในการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน อีกทั้ง ยังถูกมองว่าเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน และเมื่อมีรักครั้งใหม่ยังเกือบถูกกีดกันในตอนแรก เพียงเพราะเคยมีลูกมาก่อน 

นอกจากเรื่องนี้จะนำเสนอให้เห็นถึงมุมคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวในอุดมคติแล้ว ยังนำเสนอให้เห็นถึงมุมคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว จองซูฮยอน (รับบทโดย คิมยุนฮเย) ที่ยังคงต้องเจอกับปัญหาการถูกมองจากสังคมรอบข้างไม่ต่างกัน

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลพวงจากขนบนิยมครอบครัวที่สมบูรณ์แบบต้องประกอบไปด้วยพ่อ แม่ ลูก ทำให้ครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยว – แม่เลี้ยงเดี่ยว กลายเป็น กลุ่มคนที่แตกต่างจากขนบสังคมในเกาหลี อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในเรื่องนี้ต่างก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวก็ยังคงเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบได้ในที่สุด

หญิงแกร่ง กลางสังคมแห่งการแข่งขัน

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ จะเห็นได้ว่า มีซีรีส์ที่ให้พื้นที่ หญิงเก่ง มากขึ้น ทั้ง Under the Queen’s Umbrella (2022) / Juvenile Justice (2022) / Agency (2023) / Queenmaker (2023) / The Glory (2022-2023) เป็นต้น ซึ่งต่างสะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องอยู่ในบ้าน คอยดูแลสามีและลูกอีกต่อไป แต่สามารถมีพื้นที่ในการทำงานในสังคมได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

เพราะ แม้เกาหลีจะมี Soft Power ที่เข้มแข็งขนาดไหน แต่ในปัจจุบัน เกาหลีใต้ยังคงเต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมทางเพศ เนื่องจาก ระบบขงจื๊อใหม่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคม โดยเฉพาะระบบปิตาธิปไตยที่มองว่าสามีต้องเชื่อฟังภรรยา ทำให้มีผู้ที่มองว่าบทบาทหน้าที่ของผู้หญิงในสังคมเกาหลีควรถูกจำกัดอยู่เฉพาะในบ้าน อีกทั้งยังไม่มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานเทียบเท่ากับผู้ชาย 

ทั้งในเคสของเชฟสาวที่ไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง จนต้องพึ่งพาหัวหน้าเชฟที่เป็นชายอยู่เสมอ และพอจะสมัครควบคู่กันกับหัวหน้าเชฟที่มีชื่อเสียง เธอกลับไม่ได้รับโอกาสนั้น หรือจะเคสของคุณป้านักซ่อมกระเป๋าที่ถูกดูถูกสารพัด เพราะไม่มีวุฒิการศึกษา หรือทนายที่พยายามฟ้องหย่ากับสามีด้วยเหตุผลแปลก ๆ ที่สามียกขึ้นมาอ้างว่า การทำงานเป็นทนายทำให้เธอไม่มีเวลาว่างเลี้ยงลูก ก็ล้วนแสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศ ซึ่งในท้ายที่สุด พวกเธอต่างก็เป็นหญิงเก่งที่แกร่งเกินกว่าจะถูกจำกัดให้อยู่ในบ้านเท่านั้น 

รวมไปถึง ซีรีส์เรื่องนี้เองที่พลิกบทให้ ซีอีโอของบริษัทพีเพิลซ์ คือ คังจียุน หญิงแกร่งตัวตึงแห่งวงการเฮดฮันเตอร์ พร้อมด้วยเลขาหนุ่ม ซึ่งสวนทางกับซีรีส์เกาหลีเรื่องก่อนหน้าที่มักให้ซีอีโอเป็นผู้ชายแล้วมีเลขาเป็นผู้หญิงคอยดูแล เปิดกว้างมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเพศบนจอซีรีส์เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากดูจากกระแสตอบรับที่ซีรีส์เหล่านี้ได้รับถือว่าค่อนข้างสูง อย่าง Love Scout เองลาจอไปด้วยเรตติ้ง 12.0% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ฉายมา แสดงให้เห็นว่าการให้พื้นที่บทบาทหญิงเก่ง ค่อนข้างประสบความสำเร็จจากสังคมอยู่แล้ว ดังนั้น ในทางหนึ่งการมีอยู่ของซีรีส์เพื่อนหญิง พลังหญิงเหล่านี้อาจเป็นส่วนช่วยให้สังคมเกาหลีได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พร้อมอยู่เคียงข้างขบวนการสตรีนิยมที่กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากตอนนี้  

รักวัยทำงาน จุดพักใจในวันที่เหนื่อย

ด้วยภาวะกดดันในการทำงานตลอดเวลาแบบ 24/7 ทำให้ในที่สุด คังจียุน (รับบทโดย ฮันจีมิน) มีภาวะสมองล้า หลงลืมเรื่องต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้งและนอนไม่หลับ ซึ่งการมีเลขาคน (รัก) ใหม่อย่าง ยูอึนโฮ (รับบทโดย อีจุนฮยอก) มาช่วยก็ทำให้อาการของเธอค่อย ๆ ดีขึ้น ในขณะที่เลขาเองต่างก็ทุ่มเทเวลาในชีวิตไปกับการทำงานและการดูแลลูกสาว จนกระทั่งได้เจอกับซีอีโอคนใหม่มาเคียงข้าง

เพราะในปัจจุบัน สังคมเกาหลีกำลังตกอยู่ในภาวะสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งความเป็นสังคมอุดมปิตาธิปไตยที่เข้มข้นในเกาหลีและสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผู้หญิงในเกาหลีเลือกที่จะอยู่เป็นโสด และทุ่มเทชีวิตให้กับงานมากกว่าที่จะออกไปเดต ดังนั้น Love Scout จึงอาจเป็นซีรีส์ที่พยายามทำให้เห็นว่าแม้การมีคู่ครองจะไม่ใช่หนทางเดียวที่จะมีความสุขในวัยทำงาน การมีคนอยู่เคียงข้างท่ามกลางกองงานอาจช่วยชุบชูจิตใจเหนื่อยล้าหลังเลิกงานได้