Skip links

“พลังใบ” โกอินเตอร์ วัยรุ่นเมกา ลองแล้วติดใจ บอก “ของโคตรดีย์”

 

“ใบกระท่อม” พืชยอดนิยมของคนไทย ที่แพร่หลายไปทั่วทุกหัวระแหงจนเป็นสิ่งชินตา ทว่าล่าสุด ที่สหรัฐอเมริกาก็เริ่มมีหลายคนหันมาพึ่งฤทธิ์สารแห่ง “พลังใบ” กันมากขึ้น จนตอนนี้สามารถพบสมุนไพรชนิดดังกล่าวได้ตามร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายบุหรี่ ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ กระทั่งหลายฝ่ายเริ่มเป็นห่วงเรื่องการให้โทษ และมาตรการควบคุม โดยในทางวิทยาศาสตร์นับว่า กระท่อมเป็นหนึ่งในพืชตระกูลกาแฟ ให้ฤทธิ์คล้ายฝิ่น มีส่วนช่วยคลายความกังวลหรือซึมเศร้า รวมถึงช่วยรักษาอาการปวดเรื้อรังได้

“วัยรุ่นพลังใบ” ในบ้านเรา อาจคุ้นเคยกับการเคี้ยวใบสด หรือนำใบมาต้ม แต่ในสหรัฐฯ วิธีที่นิยมคือการบริโภคแบบผงชงดื่ม หรือแคปซูล ข้อมูลจากสมาคมพืชกระท่อมแห่งอเมริกา (American Kratom Association) ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิการบริโภคพืชกระท่อมอย่างปลอดภัยเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้พืชกระท่อมในสหรัฐฯ ราว 3 ล้านคน ทั้งนี้ทั้งนั้น ในแต่ละรัฐก็มีมาตรการควบคุมที่แตกต่างกันไป และมีอยู่ 6 รัฐที่ยังคงกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นสิ่งต้องห้าม

อย่างไรก็ดี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ระบุว่าสมุนไพรกระท่อมเป็น ‘ยาที่น่ากังวล’ โดยอ้างถึงการเสพติดและผลข้างเคียงต่างๆ เช่น อาการชัก เป็นพิษต่อตับ ง่วงซึม สับสน อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ จากการใช้พืชกระท่อม ซึ่งอาจออกฤทธิ์คล้ายยาเสพติดชนิดอื่นได้ โดยทุกวันนี้ กระท่อมมีสถานะด้านกฎระเบียบที่ค่อนข้างคลุมเครือในอเมริกา และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบางรายกล่าวว่า ในปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาที่มากพอในเรื่องความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จึงกล่าวได้ยากว่าสารตัวไหนทำปฏิกิริยาอะไรที่ออกฤทธิ์เป็นอันตรายหรือไม่? อย่างไร?

แต่ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายสนับสนุนก็กล่าวถึงสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ ทั้งยังอ้างว่ารายงานของ FDA นั้นมาจากผู้จำหน่ายที่ไร้จรรยาบรรณ ซึ่งอาจจงใจปลอมปนสารบางอย่างลงไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ทางที่ดีควรมีมาตรการป้องกัน เพื่อให้ผู้บริโภคพืชกระท่อมอย่างปลอดภัย ได้พึ่งพาสรรพคุณ “พลังใบ” อย่างถูกหลักต่อไปจะดีกว่า ดังตัวอย่างของผู้ใช้พืชกระท่อมที่มาแบ่งปันประสบการณ์ไว้ในหน้าเว็บของ American Kratom Association

“ฉันขอบคุณพระเจ้าสำหรับกระท่อม มันเปลี่ยนชีวิตของฉันมาก ฉันสามารถจัดการกับความเจ็บปวดและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพอย่างเดียว หากแต่ยังช่วยให้ฉันกล้าพูดอีกด้วย ฉันเคยทานยาสำหรับโรควิตกกังวลขั้นรุนแรง แต่ตอนนี้ฉันออกมาต่อสู้เพื่อกระท่อมเพราะมันเปลี่ยนชีวิตฉันมาก!”

จะว่าไปแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวก็ไม่ต่างจากบ้านเราสักเท่าไหร่ เห็นอย่างงี้แล้วก็น่าจะเอาเสื้อ “วัยรุ่นพลังใบ” ไปเผยแพร่ให้ชาวมะกันอีกสักอย่างดีมั้ยย จะได้ครบสูตร