Skip links

มีอะไรในกอไผ่ เบื้องหลังส่งกลับแพนด้า “ฟู่เป่า” หรือสัมพันธ์จีน-เกาหลีกำลังสั่นคลอน

ย้อนกลับสู่ยุคแพนด้าครองโซเชียล หลังเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ส่งคืน “ฟู่เป่า” ลูกแพนด้าตัวแรกของอ้ายเป่า และเล่อเป่าที่เกิดเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2563 ตามข้อตกลงการยืมแพนด้าในฐานะทูตสันถวไมตรีที่ต้องส่งคืนลูกแพนด้าอายุ 2-4 ปี

ฟู่เป่าอาศัยอยู่กับอ้ายเป่าและเล่อเป่าที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ทำให้ครอบครัวแพนด้าก้อนนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนเกาหลี มีภาพและวิดีโอต่างๆ ให้แฟนๆ ได้ติดตามมากมาย

ประกอบกับความน่ารักของฟู่เป่าและคุณปู่ คังชอลวอน ผู้ดูแลฟู่เป่าที่คอยอยู่ข้างๆ ฟู่เป่ามาเสมอ เจ้าหญิงน้อยตัวนี้ มีรายการร่วมกับคุณปู่เป็นของตัวเองในชื่อว่า “Fu Bao & Grandpa” จำนวน 4 ตอน ซึ่งออกอากาศไปเมื่อปี 2023 ซึ่งในปี 2024 ได้จองอู NCT มาร้องเพลงประกอบพาร์ท 1 ในเพลง Smile Goodbye และได้ซึลกิ Red Velvet มาร้องเพลงประกอบพาร์ท 2 ในเพลง You are joy and luck’

 

ดูๆ ไปแล้วไม่ต่างจากเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนที่เราต้องได้ดูช่วงช่วง หลินฮุ่ย หลินปิง ในเรื่องเล่าเช้านี้ก่อนไปโรงเรียน/ไปทำงาน พร้อมร้องเพลงติดหู “จั๊ด จัด จา ดา” กระทั่งเปิดช่องแพนด้า แชนแนล เพื่อดูความน่ารักของเจ้าก้อนขนพวกนี้ 24 ชม.

การเดินทางกลับจีนของฟู่เป่าจึงสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ชาวเกาหลีใต้ไม่แพ้กับตอนที่หลินปิงต้องกลับจีนด้วยเหตุผลเดียวกับฟู่เป่า

จึงอาจเรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ การทูตแพนด้า (Panda diplomacy) ประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย หลังความสัมพันธ์สัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีระส่ำระส่ายมาตั้งแต่ 2016 เนื่องจากในปีนั้นเกาหลีใต้อนุญาตให้สหรัฐฯ เข้ามาติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ (THAAD) ทำให้จีนออกตัวแบนอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีรุนแรง จนคนในวงการบันเทิงเกาหลี-จีนต้องหยุดพักงานข้ามประเทศกันไปหลายคน

การเดินทางส่งฟู่เป่าในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจีนที่พยายามส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับเกาหลีอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งส่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้เข้าร่วมบอกลาฟู่เป่า และส่งกงสุลใหญ่จีนในกวางจูเดินทางไปเข้าร่วมพิธีศพของคุณแม่ของคุณปู่คังที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า มอบพวงหรีดและของขวัญธีมแพนด้าอีกจำนวนหนึ่ง และแสดงความประทับใจแก่คุณปู่ที่ยังเดินทางไปจีนพร้อมฟู่เป่า

 

นอกจากนี้ ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยังจัดงานแถลงข่าวต้อนรับการกลับบ้านของฟู่เป่า แถมยังใช้โอกาสนี้กล่าวถึงข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้เกาหลีใต้จำกัดการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์มายังจีน

“จีนและสาธารณรัฐเกาหลีมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดและฝังแน่นอยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานของกันและกัน”

“เราหวังว่า เกาหลีใต้จะใช้วิจารณญาณอย่างถูกต้องและตัดสินใจอย่างอิสระ เพื่อเข้าร่วมการปกป้องระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง โปร่งใส ครอบคลุม และไม่เลือกปฏิบัติ ตามแนวปฏิบัติขององค์การการค้าโลก (WTO) และร่วมกันต่อต้านการเปลี่ยนประเด็นทางเศรษฐกิจไปสู่การเมืองหรือ ปัญหาด้านความปลอดภัย”

การที่จีนต้อนรับฟู่เป่าอย่างอบอุ่น แต่ไม่อ่อนโยน แฝงให้เห็นถึงการพยายามเจรจา (สร้างความกดดัน) กับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการแสดงอำนาจผ่านหมียักษ์ขาวดำอย่างที่เคยทำกับประเทศมหาอำนาจอื่นไม่ต่างจากในอดีต

ส่วนในภาคประชาชน ฟู่เป่าอาจเป็นอีกหนึ่งตัวกำหนดมุมมองสำคัญที่ชาวเกาหลีใต้จะมีต่อชาวจีนในอนาคต เพราะถ้าต่อจากนี้ฟู่เป่าไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอเท่าที่คุณปู่เคยทำไว้ ก็อาจเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์แก่จีนได้เช่นกัน

 

พอหันกลับมามองไทย เราก็แอบสงสัยว่าทำไมไทยไม่ผลักดัน ช้าง ให้กลายเป็นสัตว์สันถวไมตรีจริงจังแบบจีนบ้าง เพราะช้างก็ถูกส่งเป็นเครื่องบรรณาการมาตั้งแต่อยุธยาตอนต้น จนกระทั่งเป็นทูตไทยเชื่อมสัมพันธ์ประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน แต่ก็ดูจะไม่ได้จริงจังเหมือนแพนด้า

เพราะ นอกจากจะเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว สัตว์เหล่านี้ยังแสดงอำนาจบางอย่างให้ประเทศอื่น ‘รับรู้’ ผ่านวิธีการที่ดูน่ารักที่สุดอย่างส่ง ‘สัตว์’ ให้เป็นของขวัญ

แต่สิ่งนี้ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะ การส่งสัตว์ต่างถิ่นไปยังประเทศอื่น ประเทศนั้นจำเป็นจะต้องจ่ายค่าดูแลสัตว์ต่างถิ่นในราคามหาศาล ทั้งยังในด้านสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ที่เปลี่ยนไป จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านให้หยุดการทารุณกรรมสัตว์ในคราบการเชื่อมสัมพันธ์

แต่สิ่งนี้ก็เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศรูปแบบหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลแต่ละฝ่ายกำลังทำอะไร หรือพอจะต่อรองอำนาจได้หรือไม่

ตั้งแต่หลังปี 2559 เป็นต้นมา มีการประกาศอย่างชัดเจนว่าไทยยุติการส่งช้างในฐานะทูตสันถวไมตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังเปิดโอกาสให้ประเทศที่สนใจ ‘แลกเปลี่ยน’ สัตว์ระหว่างกันได้อยู่ แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าใด ๆ จึงเป็นเหมือนการปิดประตูแสดงอำนาจ/ต่อรองข้อตกลงไปอีกหนึ่งบาน

 

อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเกิดการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างไทยกับประเทศอื่น พร้อมด้วยข้อเจรจาระหว่างประเทศ ก็อาจเป็นสัญลัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้เห็นว่าไทยก็มีอำนาจในทางการเมืองระดับโลกขึ้นมาได้บ้าง

อีกทั้งด้วยความน่ารักและความฉลาดของช้างไทยที่ไม่แพ้แพนด้าก็ยังมีให้อวดโลกอีกเป็นกระบุง วันหนึ่งเราจะได้ดูรายการ/ไลฟ์ช้างแบบ 24 ชม.บ้างก็ได้ (ขอแบบไม่ทำร้ายน้องอ่ะนะ)

 

ถ้าฟู่เป่าเกิดกระแสในโซเชียลได้ พร้อมกับเป็นเบื้องหน้าสายสัมพันธ์ทางการเมือง

ทำไมช้างไทยจะทำบ้างไม่ได้ แถมเพลงประกอบก็ยังมีอยู่แล้วทุกคนร้องตามได้แน่นอน

ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า

ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกมันยาวเรียกว่างวง

สองเขี้ยวข้างงวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาวว

 

อ้างอิง

https://themomentum.co/kpop-in-china-after-the-thaad…/

https://english.hani.co.kr/…/english…/e_national/1135450

https://www.thaipbs.or.th/news/content/328922