ถ้าไล่ดูข้อมูลย้อนหลังก็จะเห็นเลยว่าราคาแพ็คเกจขยับขึ้นแทบทุกปี ชาวเน็ตหลายคนบ่นว่าราคาสูงเกินไป และแพงขึ้นมากจนซื้อไม่ลง ใครที่ยังลังเลว่าจะเอาไงกะชีวิตดี ลองอ่านข้อมูลเหล่านี้ อาจช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณได้ดีขึ้น
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษนั้น ถือเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปัจจุบัน มีฐานแฟนบอลกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในประเทศไทยก็มีแฟนบอลทีมใหญ่ๆ อยู่หลายสิบล้านคน แน่นอนว่า การดูบอลก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผูกติดกับชีวิตของใครหลายคนเข้าไปแล้ว เมื่อตัดสินใจเลือกเชียร์และเป็นแฟนคลับทีมไหน ก็จะยกวิญญาณให้สโมสรนั้นตลอดชีวิตไม่มีเปลี่ยนแปร นี่แหละคือเสน่ห์ของฟุตบอลที่มากกว่าเกมกีฬา สำหรับแฟนบอลพันธุ์แท้แล้ว ไม่ว่าราคาไหน ก็พร้อมจ่ายแม้จะต้องกัดฟันควักกระเป๋าก็ตาม
จากราคาที่ชาวเน็ตบ่นว่าแพง The Attraction เลยลองไปสำรวจราคาแพ็คเกจดูบอลของประเทศเพื่อนบ้านดูบ้าง ว่าเค้าต้องจ่ายกันคนละเท่าไหร่บ้างนะ
เวียดนาม
ค่าแพ็คเกจดูบอล 175,000 ดอง/เดือน
ประมาณ 257 บาท/เดือน
จำนวนประชากร : 98 ล้านคนโดยประมาณ
รายได้ต่อหัว 144,000 บาท/ปี
เงินเดือน 12,000 บาท
จ่ายค่าดูบอล 257 บาท คิดเป็น 2.14 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
อินโดนีเซีย
ค่าแพ็คเกจดูบอล 59,000 รูเปีย/เดือน
ประมาณ 136 บาท/เดือน
จำนวนประชากร : 275 ล้านคนโดยประมาณ
รายได้ต่อหัว 165,000 บาท/ปี
เงินเดือน 13,750 บาท
จ่ายค่าดูบอล 136 บาท คิดเป็น 0.98 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
สิงคโปร์
ค่าแพ็คเกจดูบอล 40.36 ดอลล่าร์สิงคโปร์/เดือน
ประมาณ 1,047 บาท/เดือน
จำนวนประชากร : 5.45 ล้านคนโดยประมาณ
รายได้ต่อหัว 2,783,000 บาท/ปี
เฉลี่ยเงินเดือน 231,916 บาท
จ่ายค่าดูบอล 1,047 บาท คิดเป็น 0.45 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
มาเลเซีย
ค่าแพ็คเกจดูบอล 99.99 ริงกิต/เดือน
ประมาณ 765 บาท/เดือน
จำนวนประชากร : 33.6 ล้านคนโดยประมาณ
รายได้ต่อหัว 429,140 บาท/ปี
เฉลี่ยเงินเดือน 35,760 บาท
จ่ายค่าดูบอล 765 บาท คิดเป็น 2.13 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
ประเทศไทย
ค่าแพ็คเกจดูบอล 499 บาท/เดือน
จำนวนประชากร : 71.6 ล้านคนโดยประมาณ
รายได้ต่อหัว 260,569 บาท/ปี
เฉลี่ยเงินเดือน 21,715 บาท
จ่ายค่าดูบอล 499 บาท คิดเป็น 2.29 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน
…
Remark : เป็นการเปรียบเทียบคร่าวๆ รายละเอียดของแพ็คเกจ และจำนวนช่องอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อันมีผลต่อการคำนวนราคาที่ไม่อาจชี้วัดความคุ้มค่าได้อย่างแม่นยำ