ชาตรามือ นั้นถือเป็นหนึ่งในลิสต์เครื่องดื่มที่นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปักหมุดไว้เป็นอันดับต้นๆ หากมีโอกาสได้มาเยือนเมืองไทย เพราะได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปากเรื่องรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และความหอมที่โดดเด่นแบบเกินเบอร์ ชิมแล้วให้รสสัมผัสที่แตกต่างจากชาของที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้เมื่อ ชาตรามือ มาเปิดสาขาแรกที่ โฮจิมินห์ซิตี วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา หลังทดลองเปิดแบบ Soft Opening วันแรก ก็มีลูกค้าเก่าที่เคยชิมมาแล้วตอนมาเที่ยวไทย รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ได้ยินคำร่ำลือ ต่างพร้อมใจกันมาเข้าคิวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดนานกว่า 2 ชั่วโมง
หนึ่งในนั้นคือหนุ่มเวียดนามที่น่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ชาไทย ไม่แน่ใจว่าจะสั่งไปกินหรือสั่งไปอาบ เพราะพี่แกสั่งออเดอร์เดียวถึง 73 แก้ว! คิดดูละกันถ้าเราต้องไปยืนต่อคิวข้างหลัง ต้องมีมองค้อนแบบตาแข็งบ้างแหละ
สมมติแก้วนึงใช้เวลา 1 นาที พนักงานก็ชงออเดอร์นี้ไปเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว ไหนจะมีออเดอร์จากการสั่งออนไลน์ผ่านแอปฯ ต่างๆ อีก ทำให้ทางเพจชาตรามือเวียดนาม ต้องประกาศจำกัดจำนวน ให้สั่งได้ไม่เกิน 8 แก้วต่อออเดอร์ แล้วอีกสองวันถัดมาก็ลดจำนวนลงอีก ให้สั่งได้ไม่เกิน 6 แก้วต่อออเดอร์
สำหรับราคาขายที่สาขาเวียดนามนั้นเมื่อเทียบกับประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัว ในประเทศไทยเริ่มต้นแก้วละ 45 บาท ในขณะที่เวียดนามนั้นเริ่มต้นที่แก้วละ 55,000 ดอง (ประมาณ 80 บาท)
โดยชาตรามือนั้นได้ออกไปบุกตลาดต่างประเทศมาหลายสาขาแล้ว ทั้งบรูไน, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เมียนมาร์, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และเวียดนามเป็นประเทศล่าสุด
ซึ่งเว็บไซต์ TasteAtlas ที่รวบรวมบทความและข้อมูลอาหารยอดนิยมทั่วโลกได้จัด 10 อันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 และ “ชาไทยเย็น” นั้นได้รับคะแนนการโหวตอยู่ที่ 4.7 คะแนน อยู่อันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว
ชาตรามือจึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ที่พารสชาติเอกลักษณ์แห่ง “ชาไทย” ออกไปมัดใจผู้คนทั่วโลก
…